นายแพทย์ นิธิวัฒน์ ศรีกาญจนวัชร
อายุรแพทย์ ประจำศูนย์ตรวจสุขภาพ และ Longevity
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-Communicable Diseases) คือ กลุ่มโรคที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากวิถีชีวิตที่สะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นการกินที่เกินพอดี การขาดการเคลื่อนไหว การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดที่กดทับอยู่ทุกวัน รวมถึงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
ผลลัพธ์ คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็งหลายชนิด รวมทั้งภาวะอ้วนลงพุงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ NCDs
NCDs ไม่ได้แพร่กระจายเหมือนไวรัส แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ มันคืบคลานเงียบๆ ทำให้ร่างกายเสื่อมถอยทีละน้อย และท้ายที่สุดกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโลก
ข้อมูลจาก WHO ระบุว่า ในปี 2021 มีผู้เสียชีวิตจาก NCDs มากกว่า 43 ล้านคน หรือราว 75% ของการเสียชีวิตทั้งหมด โดยกว่าครึ่งเสียชีวิตก่อนอายุ 70 ปี และกว่า 80% เกิดขึ้นในประเทศรายได้ปานกลางถึงต่ำ หากเจาะลึกตามโรค จะพบว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดคร่าชีวิตประชากรราว 19 ล้านคน ด้วยมะเร็ง 10 ล้านคน โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง 4 ล้านคน และเบาหวาน 1.6 ล้านคนต่อปี
สำหรับประเทศไทย ภาพก็ชัดเจนไม่ต่างกัน NCDs พรากชีวิตคนไทยประมาณ 3.5–4 แสนคนต่อปี หรือคิดเป็น 71–76% ของการเสียชีวิตทั้งหมด ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนอายุ 70 ปีจาก NCDs หลักทั้ง 4 โรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง เบาหวาน และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง อยู่ที่ราว 14% ของประชากร โดยโรคที่ครองอันดับต้น ๆ ได้แก่ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งตับ มะเร็งปอด และเบาหวาน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า NCDs ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นวิกฤตสุขภาพระดับชาติและระดับโลก
ที่ผ่านมา ระบบสุขภาพทั่วโลก รวมถึงไทย มักเผชิญ NCDs แบบ “ตั้งรับ” รอให้โรคเกิดแล้วจึงรักษา แต่เมื่อวิถีชีวิตยุคใหม่เร่งให้ผู้คนเสี่ยงโรคง่ายขึ้น ทั้งอาหารแปรรูป ความเครียดในเมืองใหญ่ และการนั่งนานไม่ขยับ แม้เทคโนโลยีการแพทย์จะช่วยให้อายุยืนขึ้น แต่กลับไม่สามารถลดภาระโรคเรื้อรังได้ ผลลัพธ์ที่เห็นชัดคือ สังคมกำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุที่อยู่ร่วมกับโรค NCDs ตลอดชีวิต และนี่คือระเบิดเวลาทางสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศ
Longevity: คำตอบที่มาถูกเวลา
ท่ามกลางวิกฤตนี้ แนวคิด Longevity กำลังกลายเป็นคำตอบที่มาถูกเวลา Longevity ไม่ได้หมายถึงเพียงการยืดชีวิตให้นานขึ้น แต่คือการป้องกันไม่ให้โรคเกิดขึ้นตั้งแต่แรก ผ่านการรู้จักร่างกายของเราเอง และดูแลสุขภาพเพื่อยืด “Healthspan” หรือช่วงชีวิตที่เรายังแข็งแรง สดใส และเต็มไปด้วยพลัง
แม้ในผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังไปแล้ว แนวทาง Longevity ก็ยังทรงพลัง เพราะไม่ได้มองที่การกินยาตามโรคที่เป็นเท่านั้น แต่เป็นการแก้ที่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง จากโภชนาการที่ถูกต้อง การสร้างมวลกล้ามเนื้อ การจัดการความเครียด ไปจนถึงการนอนหลับที่มีคุณภาพ ผลลัพธ์คือ สุขภาพที่ฟื้นกลับมา ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน บางคนสุขภาพดีขึ้นจนแพทย์สามารถพิจารณาลดยาหรือหยุดยาได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ก้าวแรกของ Longevity ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่คือ การรักตัวเองและการรู้จักร่างกายของตัวเอง เมื่อเรารักตัวเองจริงๆ เราจะไม่ละเลยหัวใจที่เต้นเพื่อเราทุกวัน ปอดที่ทำงานโดยไม่เคยหยุดพัก และกล้ามเนื้อที่พร้อมจะพยุงเราไปจนแก่เฒ่า การดูแลสุขภาพจึงไม่ใช่ “หน้าที่” ที่ต้องทำ แต่ คือ “ของขวัญ” ที่เรามอบให้ตัวเอง เพื่อจะได้อยู่กับตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
บทสรุป
NCDs คือ “วิกฤตเงียบ” ที่กำลังคร่าชีวิตคนไทยและคนทั่วโลก แต่โรคเหล่านี้ ไม่ใช่ชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราทุกคนสามารถป้องกันได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม คัดกรองได้ด้วยการตรวจสุขภาพที่เหมาะสม และฟื้นฟูได้ด้วยการผสมผสานการแพทย์กับแนวทาง Longevity
ถ้าสังคมลงมือจริงจัง ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และนโยบายสาธารณะ NCDs จะไม่ใช่เงามืดที่รอคุกคามเรา แต่จะกลายเป็นความท้าทายที่เรารับมือได้
ท้ายที่สุดแล้ว Longevity ไม่ใช่การยืดอายุขัย แต่คือการยืดช่วงเวลาที่เรายังมีพลัง ยังมีรอยยิ้ม และยังรักชีวิตของเราได้เต็มที่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์ตรวจสุขภาพ ชั้น 4
โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
โทร. 02-836-9999 ต่อ *4921