จิตแพทย์ชาวญี่ปุ่นชี้ว่า การเกษียณอายุที่ขยายออกไป และการคงความสัมพันธ์ทางสังคม จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขและสุขภาพดี

นายแพทย์ โฮซากะ ทาคาชิ จิตแพทย์วัยเกษียณ ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “การสร้างความสุขและความงดงามในวัยชรา” ในการประชุมร่วมระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวันเรื่องความสุขในผู้สูงวัย บอกว่า ช่วงอายุ 50 ปี เป็นเพียงครึ่งแรกของชีวิต และสิ่งที่ควรปฏิบัติหลังผ่านพ้น 50 ปีไปแล้ว คือการเตรียมตัวสำหรับชีวิตช่วงครึ่งหลังที่เหลืออยู่

“การเกษียณอายุไม่ใช่ฉากสุดท้ายอีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต” โฮซากะในวัย 73 ปีกล่าว

โฮซากะ ทำงานเป็นผู้อำนวยการแผนกดูแลด้านสุขภาพจิตและอารมณ์ของผู้ป่วยมะเร็ง ที่ โรงพยาบาลเซนต์ลุคอินเตอร์เนชันแนล ในโตเกียว และยังเป็นนักเขียนชั้นแนวหน้าในเรื่องวัยชรา มีผลงานเขียนหนังสือเรื่องสุขภาพและการเงินมากกว่า 30 เล่ม งานเขียนของเขาส่งเสริมมุมมองเชิงบวกต่อวัยชราในสังคมญี่ปุ่น ที่ผู้สูงอายุกำลังเผชิญกับการถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง

เขาบอกว่า คนที่เข้าใกล้วัยเกษียณควรบริหารร่างกายและจิตใจ และยังคงเครือข่ายทางสังคมเอาไว้ ซึ่งเขาใช้เวลาถึง 15 ปีในการศึกษาวิธีการของคนที่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไปที่ไม่ยอมเกษียณจากงาน รวมถึงวิธีที่พวกเขาความท้าทายต่างๆ ในช่วงหลังของชีวิต

ส่วนโฮซากะเอง แม้จะเกษียณอายุแล้ว แต่ก็ยังคงทำงานคอยให้คำปรึกษาในคลินิก 4 แห่ง รวมทั้งเขียนหนังสือ เดินสายบรรยาย โดยที่ยังเปี่ยมด้วยพลังและความสงสัยใคร่รู้

เขาบอกว่า การสนับสนุนทางสังคมเป็นศูนย์กลางของการมีสุขภาวะที่ดีของชีวิตวัยชรา เขาอ้างถึงผลการวิจัยจากอลาเมดาเคาน์ตี้ ในแคลิฟอร์เนีย ที่พบว่า ผู้ชายที่ขาดเครือข่ายทางสังคมมีความเสี่ยงสูงกว่า 2.3 เท่าที่จะเสียชีวิตภายใน 9 ปี ขณะที่ผู้หญิงความเสี่ยงอยู่ที่ 2.8 เท่า

โฮซากะแนะนำว่า กิจกรรมกลุ่ม อย่างเช่น การทำกิจกรรมร่วมกันที่สวนสาธารณะ จะช่วยสนับสนุนทางด้านอารมณ์ได้มาก เขายังให้กำลังใจภาครัฐและครอบครัวในการช่วยให้ผู้สูงอายุได้เข้าร่วมในเครือข่ายทางสังคมเหล่านี้ เพื่อช่วยลดความเครียด ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว

การยังคงทำงานต่อไปแม้จะอยู่ในวัยเกษียณ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่นายแพทย์โฮซากะเน้นย้ำ เขายกตัวอย่าง ศูนย์ฝึกอาชีพที่ญี่ปุ่น ซึ่งเตรียมพร้อมเรื่องโอกาสการทำงาน ผสานประสบการณ์ต่างๆ และมีการทำเวิร์คชอป ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในโตเกียวมีการจ้างงานคนที่อายุมากกว่า 65 ปี ถึงมากกว่า 9 แสนราย เพื่อเป็นการทำให้ผู้สูงอายุยังการเชื่อมต่อกับสังคม และยังคงมีสุขภาพที่ดี  

ที่มา
Japanese expert says social ties key to longevity at Taiwan forum