ผลสำรวจพบ เกินกว่าครึ่งหนึ่งของลูกจ้างชาวญี่ปุ่นที่เป็นคนรุ่นใหม่ไม่เต็มใจที่จะไปทำงานต่างประเทศ ขณะที่ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังลดจำนวนลง ขณะเดียวกันคู่แต่งงานชาวญี่ปุ่นเริ่มต่อต้านการที่คู่สมรสต้องไปทำงานในต่างประเทศ
ข้อมูลอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นระบุว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนตุลาคมปี 2024 จำนวนของคนญี่ปุ่นที่มาทำงานในประเทศไทยลดลงเป็นจำนวน 70,421 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 14.7 ขณะที่ชาวญี่ปุ่นซึ่งมาทำงานและอยู่อาศัยในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย ต่างลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 4 ปี ซึ่งชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่มาอาศัยอยู่ในประเทศอาเซียนเป็นคนที่มาทำงานมากกว่ามาเรียนต่อ
ยาสุฮิโระ ทานากะ ผู้บริหารบริษัทปรึกษาแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น กล่าวว่า บริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มที่จะมอบความไว้วางใจให้กับพนักงานที่เป็นคนในท้องถิ่นในการบริหารจัดการมากขึ้น แม้ว่าบางครั้งบริษัทย่อยในแต่ละประเทศจะยังจ้างผู้บริหารชาวญี่ปุ่นอยู่ เพื่อช่วยให้การทำงานร่วมกับสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นเป็นไปอย่างราบรื่น
รายได้ของบริษัทญี่ปุ่นในอาเซียนที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 2010 ทำให้บริษัทญี่ปุ่นต่างหันความสนใจมาที่ความเข้าใจของผู้จัดการที่เป็นคนท้องถิ่นมากขึ้น ทั้งในเรื่องการตลาดของประเทศนั้นๆ รวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการที่เหมาะกับรสนิยมของคนในท้องถิ่น ซึ่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบจากเดิมที่เคยส่งพนักงานชาวญี่ปุ่นมาประจำการในต่างประเทศ เป็นระยะเวลา 3–5 ปี เพื่อบริหารงานขายสินค้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้จำนวนของชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในอาเซียนลดลง ทานากะอธิบายว่า เป็นเพราะคู่แต่งงานชาวญี่ปุ่นปัจจุบัน ทั้งสามีและภรรยาสามารถหารายได้เข้าบ้านได้ทั้งคู่ จึงเกิดเหตุการณ์คู่สมรสของพนักงานที่ถูกส่งไปทำงานต่างประเทศ ไม่ยอมทิ้งอาชีพของตัวเอง เพื่อเดินทางไปอยู่ด้วยกับอีกฝ่าย ปรากฏการณ์ถ่ายโอนพนักงานภายในภูมิภาคจึงเกิดขึ้นเป็นเรื่องปรกติ เช่น พนักงานบริษัทญี่ปุ่นในสิงคโปร์ถูกย้ายมาทำงานในสำนักงานที่ประเทศไทย
ส่วนเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ไม่เต็มใจไปทำงานนอกประเทศ เป็นเรื่องความกังวลเกี่ยวกับความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ และการที่ไม่อยากไปจากเมืองที่เป็นบ้านเกิด ซึ่งการสำรวจพนักงานบริษัทด้านการให้บริการของญี่ปุ่นจำนวน 1,118 คน พบว่า ร้อยละ 52.7 ไม่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศ
โนบูโอ ฟูจิอิ รองประธานหอการค้าญี่ปุ่นในฟิลิปปินส์ กล่าวว่า บางครั้ง ชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในต่างประเทศ ตำหนิเรื่องของภาระงานที่หนักเกินไป เรื่องระยะเวลาการเทรนพนักงานรุ่นใหม่ที่น้อนเกินไป ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการชาวญี่ปุ่นต้องบริหารโรงงานในฟิลิปปินส์ซึ่งมีพนักงานราว 1,000 คน เขากล่าวว่า “ไม่มีใครในญี่ปุ่นที่ทำงานในสเกลใหญ่แบบนี้”
นอกจากนี้ พนักงานบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศยังได้รับผลกระทบจากการปรับองค์กร เช่น บริษัทผลิตยานยนต์ซูซูกิประกาศจะปิดโรงงานในประเทศไทยในปลายปี 2025 และจะมุ่งไปที่การผลิตในอินเดียและญี่ปุ่น หรือการที่บริษัทรถยนต์นิสสันที่ประกาศปิดโรงงานในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม รายงานประจำปีว่าด้วยสถิติของชาวญี่ปุ่นในต่างแดน ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นปีระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แทบไม่มีผล หรือมีผลเล็กน้อยมากต่อการลดลงของจำนวนชาวญี่ปุ่นในภาพรวมที่ทำงานในต่างประเทศ
ที่มา
Japanese expats leave Southeast Asia, replaced by local hires