Skip to main content

 

ห้องต่างๆ ใน เรือนจำหญิงโทชิกิ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วย ผู้ต้องขังหญิงสูงอายุ ที่หลังงองุ้ม บ้างต้องใช้เครื่องพยุงเดิน พากันลากเท้าอย่างช้าๆ เป็นแถวไปตามโถงทางเดิน

โทชิกิ เป็นเรือนจำหญิงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ประชากรผู้ต้องขังในเรือนจำส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งสะท้อนภาพสังคมสูงวัยของญี่ปุ่น รวมทั้งปัญหาความโดดเดี่ยวและความยากจนในผู้สูงอายุที่มีอยู่ทั่วไปของประเทศ

นับจากปี 2003 ถึงปี 2022 จำนวนผู้ต้องขังที่อายุมากกว่า 65 ปีของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นราว 4 เท่าตัว ในปี 2022 มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ต้องขังหญิงทั่วญี่ปุ่นเป็นผู้หญิงสูงอายุที่ก่อคดีลักทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ บางส่วนเป็นการทำความผิดเพื่อความอยู่รอด ข้อมูลจาก OECD ระบุว่า ร้อยละ 20 ของผู้สูงอายุญี่ปุ่นที่อายุมากกว่า 65 ปี มีชีวิตอยู่ในความยากจน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของสมาชิก OECD ทั้ง 38 ประเทศ ซึ่งค่าเฉลี่ยนี้อยู่ที่ร้อยละ 14.2

อายิโกะ ผู้ต้องขังหญิงวัย 81 ปี ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลักขโมยอาหาร อายิโกะใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินสงเคราะห์จากรัฐจำนวนไม่ถึง 40 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับทุกๆ 2 เดือน เมื่อคิดเป็นเป็นเงินไทยจะตกราว 1,350 บาท

อายิโกะถูกจำคุกด้วยข้อหาลักขโมยอาหารเป็นครั้งที่ 2 เธอตระหนักดีถึงความลำบากแสนสาหัสของชีวิตที่ยากจนและการต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งทำให้เธอเลือกจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ

“ถ้าฉันมีการเงินที่มั่นคงและมีชีวิตที่สะดวกสบาย แน่นอนว่าฉันไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นแน่ บางทีชีวิตภายในนี้อาจเป็นชีวิตที่มั่นคงที่สุดแล้วสำหรับฉัน” อายิโกะกล่าว

“มีคนที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำ เพราะภายนอกอากาศหนาว หรือไม่ก็เพราะพวกเขาหิวโหย ส่วนคนที่เจ็บป่วย ก็จะได้รับการรักษาพยาบาลฟรีในนี้ ทำให้มีบางคนอยากที่จะอยู่ในเรือนจำให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีกระทั่งว่า มีคนบอกว่าจะจ่ายเงินให้ 2 ถึง 3 หมื่นเยนต่อเดือน เพื่อที่จะได้อยู่ในนี้ตลอดไป” ทาคาโยชิ ชิรานากะ เจ้าหน้าที่เรือนจำหญิงโทชิกิ กล่าว

ที่เรือนจำโทชิกิ ผู้ต้องขังจะต้องทำงานที่โรงงานของเรือนจำ และภายในนี้พวกเธอจะได้รับอาหารวันละ 3 มื้อ ได้รับการรักษาพยาบาลและการดูแลสำหรับผู้สูงอายุฟรี ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธอไม่สามารถจะมีได้ในโลกภายนอกกำแพงเรือนจำ

โยโกะ ผู้ต้องขังหญิงอีกรายหนึ่ง เธออายุ 51 ปี ถูกจำคุกข้อหายาเสพติด 5 ครั้งในช่วง 25 ปี เธอเป็นหนึ่งในคนที่คอยช่วยดูแลผู้สูงอายุในเรือนจำ ซึ่งตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอสำหรับการดูแลผู้ต้องขังที่อายุมาก โยโกะจึงเข้ามาช่วยผู้ต้องขังสูงอายุในการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และพาเดินไปตามที่ต่างๆ ภายในเรือนจำ  

“ในตอนที่ไม่มีเงินแล้ว บางคนทำตั้งใจทำผิดกฎหมายให้ถูกจับ เพื่อที่จะได้สามารถกลับเข้ามาอยู่ในเรือนจำอีก” โยโกะกล่าว

เมกูมิ เจ้าหน้าที่เรือนจำโทกูชิกล่าวว่า ส่วนหนึ่งของปัญหาผู้ต้องขังทำความผิดซ้ำก็คือ การที่พวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนให้สามารถกลับออกไปใช้ชีวิตปรกติในสังคมภายนอกเรือนจำได้

“เมื่อพวกเขาได้รับการปล่อยตัว และกลับสู่ชีวิตปรกติ พวกเขาไม่มีใครเลยที่ช่วยดูแล ยังมีคนที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งหลังจากทำความผิด และไม่มีที่ทางของตัวเองเลยในสังคม” เมกูมิกล่าว

เช่นกรณีของ อายิโกะ เธอเคยอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 43 ปีช่วงก่อนที่จะเข้าสู่เรือนจำ เธอเล่าว่า ลูกชายมักพูดกับเธอบ่อยๆ ว่า “ผมขอแค่ให้แม่ไปพ้นๆ ซะที”

“ฉันไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมีชีวิตอยู่ ฉันก็แค่อยากจะตายๆ ไปซะ” อายิโกะกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐของญี่ปุ่นทราบถึงปัญหาเหล่านี้ดี รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคมกล่าวเมื่อปี 2021 ว่า ผู้ต้องขังสูงวัยเมื่อถูกปล่อยตัวแล้วได้รับการสนับสนุนน้อยมาก ซึ่งทำให้พวกเขากลับไปทำความผิดซ้ำอีก

ขณะที่กระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่น เริ่มโครงการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ต้องขังหญิงในการใช้ชีวิตหลังได้รับอิสระ เช่น การฟื้นฟูอาการติดยาเสพติด และการช่วยจัดการเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว

รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ประชากรสูงอายุจะเพิ่มอย่างรวดเร็ว และเมื่อถึงปี 2040 จะต้องการคนที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุมากถึง 2.72 ล้านคน ซึ่งขณะนี้กำลังมีการแย่งชิงคนที่จะเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงการนำเข้าแรงงานต่างชาติเพื่อเพิ่มเต็มช่องว่างนี้ ขณะที่ในเรือนจำโทชิกิ เจ้าหน้าที่เสนอให้ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติในการพยาบาลผู้อื่นให้ช่วยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลผู้ต้องขังสูงอายุ

“ตอนนี้เราต้องช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พวกเขา ช่วยพวกเขาอาบน้ำ กินข้าว มาถึงจุดนี้ รู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านพักคนชรามากกว่าที่จะเป็นเรือนจำที่เต็มไปด้วยคนที่ก่อคดีแล้ว” ชิรานากะกล่าว

ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาโครงการสร้างบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุเพิ่มในเทศบาลเมือง 10 แห่งทั่วประเทศ และเริ่มให้การสนับสนุนประชากรผู้สูงอายุที่ไม่มีญาติพี่น้องดูแลแล้ว แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะรองรับจำนวนผู้สูงอายุได้เพียงพอ จากการที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนอายุยืนที่สุดในโลก และมีอัตราการเกิดต่ำมาก

อายิโกะ ซึ่งจะพ้นโทษในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กล่าวว่า เธอรู้สึกละอายใจและหวาดกลัวที่จะต้องเจอหน้าลูกชาย เธอตั้งใจจะขอโทษและขอให้ลูกชายให้อภัย

“การต้องอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ฉันรู้สึกอับอายที่ต้องลงเอยด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ฉันรู้สึกจริงๆ ว่า ถ้าฉันมีความปรารถนาที่แรงกล้ากว่านี้ ฉันอาจมีชีวิตที่ต่างไปจากนี้ แต่ฉันก็แก่เกินไปที่จะทำอะไรๆ แล้วในตอนนี้” อายิโกะกล่าว


ที่มา
Japan’s elderly are lonely and struggling. Some women choose to go to jail instead