การออกมาให้สัมภาษณ์ของ 2 คนดังแห่งเกาะอังกฤษถึงแผนการที่จะลาออกจากงาน เพื่อมาทำหน้าที่ “พ่อบ้านเต็มเวลา” ในการเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน กลายเป็นข้อถกเถียงถึงบทบาทของพ่อและผู้ชายในสหราชอาณาจักร ซึ่งท้าทายต่อความคิดดั้งเดิมที่ว่า ผู้ชายทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงเลี้ยงดูลูก
หลังจากที่ ทอม ฮอลแลนด์ นักแสดงชาวอังกฤษซึ่งรับบทบาทสไปเดอร์แมนในภาพยนตร์ของมาร์เวล ออกมาเปิดเผยว่า เขามีแผนที่จะหยุดอาชีพนักแสดง เพื่อมาทำหน้าที่เป็น “พ่อบ้าน” คอยเลี้ยงดูลูกๆ กลายเป็นข่าวดังในสื่อต่างๆ
“พอผมมีลูก พวกคุณจะไม่เห็นผมในภาพยนตร์อีกต่อไป” ทอมกล่าว
เช่นเดียวกับ เวย์น รูนีย์ นักฟุตบอลอดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษและดาวยิงสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า เขาที่มีแผนที่มาเป็นพ่อบ้านเต็มเวลาคอยดูแลลูกชายทั้งสี่ หลังลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลพลีมัธในปีนี้ เพื่อให้ภรรยามีสมาธิกับการทำงานได้อย่างเต็มที่
“มันยังคงเป็นเรื่องที่สวนกระแสวัฒนธรรมอย่างสุดขั้วสำหรับผู้ชายที่จะเป็นพ่อบ้านอยู่กับบ้าน” ดร.เจเรมี เดวีส์ จากสถาบันความเป็นพ่อกล่าว
ดร.เจเรมีกล่าวว่า ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลล้มเหลวในการไล่ตามข้อเท็จจริงที่ว่า มีครอบครัวจำนวนมากต้องการให้พ่อเข้ามามีบทบาทในการเลี้ยงดูลูกๆ มากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเผยว่า แม้คุณพ่อในสหราชอาณาจักรที่ลาออกจากงาน เพื่อมาเป็น “พ่อบ้านแบบเต็มเวลา” ในการดูแลลูกๆ ในปี 2022 จะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 30 จากปี 2019 แต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก โดยมีเพียงร้อยละ 1.7 ของผู้ชายทั้งหมดที่มีลูก ขณะที่มีผู้หญิงในสัดส่วนร้อยละ 13.9 ที่ทำหน้าที่เดียวกันนี้
ดร.เจเรมีกล่าวว่า กฎหมายของสหราชอาณาจักรที่ให้สิทธิการลาของพ่อแม่นั้นอาจแย่ที่สุดในยุโรป เขาร่วมในการรณรงค์เพื่อให้คุณพ่อทั่วสหราชอาณาจักรได้รับสิทธิการลาเพื่อดูแลลูกในช่วงปีแรกเป็นเวลา 6 สัปดาห์แบบที่ได้รับเงินเดือน ซึ่งตอนนี้ คุณพ่อได้สิทธิการลาเลี้ยงลูก 2 สัปดาห์ โดยได้รับเงินเดือนร้อยละ 90 ของรายได้ที่ได้รับต่อสัปดาห์
นับตั้งแต่ปี 2011 ครอบครัวที่มีลูกอ่อน ในกรณีที่แม่กลับไปทำงาน บรรดาพ่อในสหราชอาณาจักรมีสิทธิลาหยุดเพื่อเลี้ยงลูกในช่วงปีแรกเป็นเวลา 6 เดือนโดยที่จะไม่ได้รับเงินเดือน แต่งานวิจัยของ Pregnant Then Screwed องค์กรการกุศลของอังกฤษ พบว่า ร้อยละ 63.7 ของคุณพ่อใช้สิทธิลาหยุดเพื่อดูแลลูกแรกเกิดเพียง 2 สัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น มีชาวอังกฤษเพียงร้อยละ 18 ที่เชื่อว่าการลาหยุดเพียง 2 สัปดาห์เพื่อทำหน้าที่พ่อนั้นน้อยเกินไป ขณะที่ร้อยละ 70 ของคุณพ่อที่ใช้วันลาเพื่อเลี้ยงลูกระบุว่า พวกเขาไม่มีเงินพอจะดูแลลูกๆ หากลาหยุดเป็นเวลานานโดยที่ไม่ได้รับเงินเดือน
มีสารพัดเหตุผลในทางวัฒนธรรมที่ทำให้ผู้ชายอังกฤษมีความยากในการใช้เวลาเพื่อดูแลลูกๆ เมื่อเทียบกับผู้หญิง เนื่องจากบทบาทของผู้หญิงในเลี้ยงดูลูกแบบเต็มเวลาเป็นสิ่งที่ยอมรับกันมาช้านาน ขณะที่ผู้ชายซึ่งตัดสินใจทำบทบาทเดียวกันนี้ กลับถูกตัดสินโดยคนอื่นและถูกทำให้แปลกแยก คำว่า “พ่อบ้าน” จึงไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนัก
“เพื่อนๆ และญาติๆ ชอบถามบ่อยๆ ว่า เมื่อไหร่ผมจะกลับไปทำงานสักที มันมีความเชื่อที่ใหญ่โตมากว่าเป็นบทบาทของผู้หญิงที่จะอยู่กับบ้าน หรือไม่ก็คิดเอาเองว่ามันเป็นชีวิตที่ค่อนข้างสบาย” สตีเฟน เฮรอน อดีตนักกายภาพบำบัดวัย 37 ปี ซึ่งทำหน้าที่พ่อบ้านเต็มเวลากล่าว
ในปี 2022 สตีเฟน กับเมย์ ภรรยา พร้อมลูกชายและลูกสาวรวม 7 คน ย้ายจากลอนดอนไปยังนิวซีแลนด์ หลังจากภรรยาได้เลื่อนตำแหน่ง ในตอนนั้นลูกสาวคนเล็กอายุได้เพียง 5 เดือน สตีเฟนหยุดพักอาชีพของเขา และมาทำหน้าที่คุณพ่ออยู่กับบ้าน จนถึงจุดที่ทั้งคู่ตัดสินใจทำงานแบบพาร์ทไทม์ และช่วยกันเลี้ยงลูก ซึ่งสตีเฟนชอบไอเดียของการได้ใช้เวลาอยู่บ้านกับลูกๆ
มีงานวิจัยระบุว่า พ่อบ้านที่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้านหลายปี จะหางานทำได้ยากกว่าในตอนที่ลูกๆ โตแล้ว เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ยังคงทำงานอยู่ตลอด ขณะที่มีปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่ออาชีพของผู้ชายที่ทำหน้าที่เลี้ยงลูกนั้น ใกล้เคียงกับผู้หญิงที่เป็นคุณแม่ทั้งหลายซึ่งพบเจอมาตั้งแต่โบราณกาล เช่น การไม่มีเวลาให้ตัวเอง การเหนื่อยล้าหมดแรง การไม่ก้าวหน้าในอาชีพการงานในช่วงที่มีภาระเลี้ยงดูลูกๆ หรือมักถูกถากถางจากเพื่อนร่วมงานหากใช้วันลาหลังคลอด
ทอม ไบลีย์ ผู้เชี่ยวชาญการบำบัดเรื่องภาษาและการพูด วัย 47 ปี เขาทำงานกับระบบบริการสาธารณสุขแห่งชาติ หรือ NHS และเพิ่งเปลี่ยนบทบาทมาเป็นพ่อบ้านอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลลูกสาววัย 2 ขวบและ 4 ขวบ ทอมบอกว่า นี่เป็นการตัดสินใจด้านการเงินและเป็นโอกาสสำคัญเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับลูกสาว
ภรรยาของทอม เป็นผู้บริหารระดับสูงด้านการตลาด และเป็นตัวหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ในตอนที่ทั้งคู่ยังทำงาน พวกเขาจะพาลูกๆ ไปส่งที่สถานดูแลเด็ก ซึ่งทอมบอกว่า ค่าใช้จ่ายสูงพอๆ กับค่าแรงของเขา ทั้งยังทำให้ครอบครัวไม่มีความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน
“ผมมาจากการประกาศตัวว่าผู้หญิงเป็นผู้ควบคุม ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดปรกติสำหรับผมที่รับบทบาทพ่อบ้าน แต่มันเป็นความรู้สึกของการได้แบ่งรับเอาส่วนการดูแลลูกๆ ออกมาจากโลกของคุณแม่” ทอมกล่าว
ที่มา
Stay-at-home dads are being left out of the parenting conversation