Skip to main content

ค่านิยมบ้างาน ทุ่มเทให้กับงาน เป็นคุณค่าพื้นฐานที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นหลายรุ่นประสบกับภาวะการนอนหลับไม่เพียงพอมานานหลายทศวรรษ และเริ่มเป็นประเด็นในสังคมญี่ปุ่น

การศึกษาของ OECD ในปี 2021 พบว่า ชาวญี่ปุ่นนอนหลับเฉลี่ย 7 ชม. 22 นาทีต่อคืน ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดา 33 ประเทศที่มีการศึกษา โดยร้อยละ 37.5 ของผู้ชายญี่ปุ่นนอนน้อยกว่า 6 ชม. และผู้หญิงญี่ปุ่นร้อยละ 40.6 นอนหลับน้อยกว่า 6 ชม.ต่อคืน

ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงรัฐบาลญี่ปุ่นเตือนว่า การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยหลายอย่าง อาการหงุดหงิดโมโหง่าย ไม่มีสมาธิทำงาน รวมถึงปัญหาสุขภาพจิต และประสิทธิภาพต่ำในการทำงาน

หลังมีรายงานที่ว่า คนญี่ปุ่นนอนหลับไม่เพียงพอ รัฐมนตรีสาธารณสุขและสวัสดิการของญี่ปุ่น ออกมาเรียกร้องต่อสาธารณะให้คนญี่ปุ่นนอนหลับให้ดีขึ้นและยาวนานขึ้น

รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่น แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรนอนหลับเต็มที่ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชม. เด็กนักเรียนควรนอนวันละ 8-10 ชม. และนักเรียนชั้นประถมควรนอนหลับ 9-12 ชม. เด็กอายุ 3-5 ปี ควรนอนหลับให้ได้ 10-13 ชม. ทารกและเด็กอ่อนอายุไม่เกิน 2 ปี ควรนอนหลับวันละ 11-14 ชม.

ดร.มาซาชิ ยานากิซาวา ผู้อำนวยการสถาบันนานาชาติเพื่อรักษาการนอน มหาวิทยาลัยทสึคูบะ กล่าวว่าคำแนะนำของรัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่มีความเห็นว่า ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นอนหลับไม่พอ หรือไม่มีการเสนอวิธีที่ช่วยทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นและยาวนานขึ้น

ดร.มาซาชิกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้คนญี่ปุ่นนอนไม่เพียงพอ มาจากค่านิยมพื้นฐานและความเชื่อในเรื่องการทำงานหนักที่ว่า 'เวลามีค่ามากเกินกว่าที่จะหมดไปกับการนอน'

ชาวญี่ปุ่นเริ่มให้เวลากับงานมากขึ้น หรือเริ่มนิสัยบ้างานในทศวรรษที่ 1950 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต และเป็นช่วงของสร้างชาติขึ้นใหม่หลังความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นยุคที่ชาวญี่ปุ่นทำงานหนักและได้รับผลตอบแทนที่ดี ในทางกลับกันก็สร้างนิสัยการนอนน้อย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ดร.มาซาชิ กล่าวว่า มีความเกี่ยวโยงกันชัดเจนระหว่างการนอนหลับกับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งบางประเภท รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง และการติดเชื้อ ซึ่งนำไปสู่ความไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ทำให้กลายเป็นคนขี้โมโห หงุดหงิดง่าย เครียด ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

ดร.มาซาชิ กล่าวว่า การเปลี่ยนความคิดพื้นฐานของชาวญี่ปุ่นในเรื่องการนอนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างที่สุด และชาวญี่ปุ่นควรได้นอนหลับวันละ 8 ชม.ทุกวัน แล้วจึงค่อยจัดสรรเวลาให้กับเรื่องอื่นๆ ทั้งเรื่องงาน ครอบครัว

ดร.มาซาชิ กล่าวว่า ความพยายามของเขาที่จะทำให้เกิดเทรนด์ของการงีบหลับในที่ทำงาน โดยได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้พนักงานงีบหลับในที่ทำงานเพื่อชาร์จพลัง และเริ่มมีบริษัทบางแห่งแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การงีบหลับในที่ทำงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

มิชิฮิโร ฟูกาโน ผู้อำนวยการบริษัทผู้ผลิตหมอนเพื่อการนอนกลางวัน กล่าวว่า การนอนไม่พอเป็นปัญหาที่ซีเรียสมากของคนญี่ปุ่น แต่ตอนนี้เริ่มมีการยอมรับมากขึ้นให้พนักงานสามารถงีบหลับช่วงสั้นๆ ได้ในที่ทำงาน และบริษัทของเขามีความสุขมากที่ให้พนักงานงีบหลับได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง