Skip to main content

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (นาซา) เลื่อนกำหนดส่งมนุษย์อวกาศทำภารกิจเหยียบดวงจันทร์ออกไป คาดส่งได้เร็วที่สุดปี 2568 โดยให้เหตุผลว่าความล่าช้าของภารกิจมาจากเรื่องทุนและการฟ้องร้องทางกฎหมายของ ‘เจฟฟ์ เบซอส’

เดิมรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ตั้งเป้าส่งมนุษย์อวกาศไปยังดวงจันทร์ในปี 2567 ถือเป็นการทำภาพกิจเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งในรอบครึ่งศตวรรษ โดยภารกิจดังกล่าวถูกเรียกว่า ‘อาร์ทีมิส’ (Artemis) และถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายที่ทะเยอทยานมากกว่าในการส่งมนุษย์อวกาศไปดาวอังคาร

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) ‘บิล เนลสัน’ ผู้บริหารนาซาได้เผยว่าการที่‘บลูออริจิน’ บริษัทด้านเทคโนโลยีอวกาศของมหาเศรษฐี ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ฟ้องร้องต่อกรณีที่นาซาเลือก ‘สเปซเอ็กซ์’ ของ ‘อีลอน มัสก์’ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งเป็นผู้สร้างยานลงจอดบนดวงจันทร์เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ภารกิจต้องล่าช้าออกไปจากกำหนดอย่างน้อย 1 ปี โดยแม้ศาลรัฐบาลกลางได้ตีตกคำร้องดังกล่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้บริการนาซาก็ชี้ว่าการฟ้องร้องนี้ทำให้โครงการล่าช้าไปเกือบ 7 เดือน และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้โครงการส่งมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนปี 2568 นอกจากนี้ รัฐสภายังอนุมัติเงินงบประมาณให้น้อยเกินไปสำหรับการพัฒนาระบบลงจอด ส่วนการระบาดของโควิด-19 ก็มีส่วนทำให้เกิดความล่าช้าเช่นกัน

ครั้งล่าสุดที่นาซาส่งนักบินอวกาศเหยียบดวงจันทร์คือเมื่อ 49 ปีที่แล้วในภารกิจยานอะพอลโล 17 โดยก่อนหน้านี้นาซามีเป้าหมายส่งยานอวกาศพร้อมลูกเรือกลับไปยังดวงจันทร์ภายในปี 2571 หลังบรรลุเป้าหมายส่งสถานีอวกาศ ‘เกทเวย์’ (Gateway) ขึ้นสู่วงโคจรรอบดวงจันทร์ได้ในปี 2568 แต่เมื่อปี 2562 รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศว่าจะ “ใช้ทุกวิถีทางที่จำเป็น” เพื่อส่งชาวอเมริกันกลับไปเหยียบดวงจันทร์ให้ได้ภายใน 5 ปี

อ้างอิง 
NASA pushes back time frame for human moon mission to 2025
- Nasa bumps moon landing back to 2025 at the earliest