Skip to main content

‘ฟรานเซส เฮาเกน’ อดีตพนักงานเฟซบุ๊กให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ยืนยันว่าบริษัทและแอปพลิเคชันเป็นอันตรายต่อเด็ก กระตุ้นให้เกิดความแตกแยก และบั่นทอนประชาธิปไตย

เฮาเกน วัย 37 ปี อดีตผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊กที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลผลกระทบด้านลบของเฟซบุ๊ก ได้ให้การต่อคณะอนุกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าเธอมาอยู่ตรงนี้เพราะเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊กเป็นอันตรายต่อเด็ก กระตุ้นให้เกิดความแตกแยก และบั่นทอนประชาธิปไตย ผู้บริหารบริษัทรู้วิธีที่จะทำให้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมปลอดภัยขึ้นแต่ก็ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น เนื่องจากพวกเขาให้ความสำคัญกับกำไรมหาศาลเหนือกว่าคน พร้อมเรียกร้องให้รัฐสภาดำเนินการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหา และเรียกร้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีที่เฟซบุ๊กดึงดูดผู้ใช้งานให้อยู่บนแพลตฟอร์ม โดยชี้ว่าตราบใดที่เฟซบุ๊กดำเนินการอยู่ในเงามืด ปกปิดการวิจัยของตัวเองจากการตรวจสอบวิจารณ์ของสาธารณะ ก็คือไม่รับผิดชอบ

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังเฮาเกนได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ต.ค.) ระบุว่าเธอเป็นคนที่เผยแพร่เอกสารภายในจำนวนมากของเฟซบุ๊กให้กับหนังสือพิมพ์เดอะวอลสตรีทเจอนัลเมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ โดยเดอะวอลสตรีทเจอนัลได้ใช้เอกสารเหล่านี้รายงานว่า การวิจัยของอินสตาแกรมได้แสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวสามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของเด็กผู้หญิงได้ ขณะที่ 1 วันก่อนการขึ้นให้การต่อวุฒิสภาของเฮาเกน เฟซบุ๊กก็เผชิญปัญหาแอปล่มเป็นเวลาเกือบ 6 ชั่วโมง ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอตส์แอปป์ ซึ่งประเมินว่าเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นส่งผลให้ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กสูญเสียความมั่งคั่งส่วนตัวไปประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ซักเคอร์เบิร์กได้ออกมาตอบโต้คำให้การต่อวุฒิสภาของเฮาเกน โดยในจดหมายถึงพนักงานเฟซบุ๊กที่เผยแพร่ต่อสาธารณะซักเคอร์เบิร์กระบุว่า ข้อกล่าวอ้างหลายอย่างนี้ไม่มีเหตุผล พร้อมชี้ว่าบริษัทพยายามต่อสู้กับเนื้อหาที่เป็นอันตราย สร้างความโปร่งใส ทำการวิจัยในประเด็นสำคัญเหล่านี้ และย้ำว่าเฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดีและสุขภาพจิต โดยเป็นเรื่องยากที่จะดูรายงานข่าวที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการงานและแรงจูงใจของบริษัท ขณะที่เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ระบุไม่เห็นด้วยต่อหลายประเด็นที่เฮาเกนให้การ แต่มีจุดหนึ่งที่เห็นตรงกันคือนี่ถึงเวลาที่ต้องเริ่มสร้างกฎที่เป็นมาตรฐานสำหรับอินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้ รายงานของบีบีซีระบุว่า ผลกระทบด้านลบของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเฟซบุ๊ก เป็นสิ่งที่สมาชิกวุฒิสภาจากรีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นตรงกันว่าบริษัทจำเป็นต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นไม่กี่ประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภาจากทั้งสองพรรคจะเห็นไปในทางเดียวกัน

อ้างอิง

Facebook 'operating in the shadows', says whistleblower as US lawmakers demand probes

Facebook harms children and weakens democracy: ex-employee