Skip to main content

กลุ่มตอลิบานได้เข้ายึดกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานได้สำเร็จ รวมถึงเข้าไปยึดทำเนียบประธานาธิบดี หลังจาก 'อัชราฟ กานี' ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานหนีออกนอกประเทศไป ส่งผลให้เกิดความสับสนละความกังวลใจไปทั่วโลก The Opener ได้สรุปว่า เกิดอะไรขึ้นในอัฟกานิสถานบ้าง แล้วสถานการณ์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

เกิดอะไรขึ้น? 

กลุ่มตอลิบานเข้ายึดกรุงคาบูลได้โดยไม่มีการต่อต้านใดๆ รวมถึงเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดีแล้ว โดยกลุ่มตอลิบานอ้างว่า ขณะนี้ มีการ “ส่งมอบสถานที่ของรัฐบาลอย่างสันติทั่วประเทศ” พร้อมประกาศว่า สงครามจบแล้ว 

การยึดทำเนียบฯ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอัฟกานิสถานเจรจาเรื่องการเปลี่ยนผ่านอำนาจและอพยพออกไป นอกจากนี้ มีรายงานว่าอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนโดยสหรัฐฯ ได้หนีออกนอกประเทศไปยังทาจิกิสถานเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า เขาต้องการหลีกเลี่ยงการนองเลือด

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า วันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เดินทางไปสนามบินคาบูลเพื่อเดินทางออกนอกอัฟกานิสถานแล้ว และอาคารสถานทูตก็ไม่มีธงติดไว้แล้ว ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ ก็เร่งอพยพพลเมืองออกจากประเทศ แต่สถานการณ์ในกรุงคาบูล รวมถึงสนามบินคาบูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่ามีการยิงปืนเข้าไปในสนามบิน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย

สถานการณ์มาถึงจุดนี้ได้ยังไง

การถอนกองกำลังสหรัฐฯ ออกจากประเทศเป็นการเปิดทางให้ตอลิบานเข้าไปยึดครองเมืองสำคัญๆ ต่างๆ ในอัฟกานิสถานได้ หลายเมืองสำคัญตกไปอยู่ภายใต้การยึดครองของตอลิบานโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ หรือมีการต่อต้านเพียงเล็กน้อย ซึ่งรัฐบาลสรัฐฯ ของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับแล้วว่าคาดการณ์สถานการณ์ผิดพลาด ไม่คิดว่ากองทัพอัฟกานิสถานจะไม่สามารถต้านทานกลุ่มตอลิบานจนถูกยึดเมืองได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร 

เมื่อกลุ่มตอลิบานกลับขึ้นสู่อำนาจอีกครั้ง อาจทำให้สิทธิเสรีภาพของพลเมืองถดถอยลง โดยเฉพาะสิทธิของผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ เช่น กลุ่มอัลกออิดะห์ อาจจะเข้มแข็งขึ้นในอัฟกานิสถาน จนทำให้ภัยก่อการร้ายทั่วโลกรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะวาระครบรอบ 20 ปีวินาศกรรม 9/11 ที่กำลังจะถึงนี้

สหรัฐฯ ส่งทหารไปอัฟกานิสถานเพิ่มอีก 1,000 นาย รวมเป็น 6,000 นายที่จะประจำการในอัฟกานิสถาน โดยภารกิจหลักคือการป้องกันสนามบินนานาชาติในกรุงคาบูล แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำอย่างไรต่อกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ด้านสมาชิกคองเกรสต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า หน่วยข่าวกรองประเมินสถานการณ์ในอัฟกานิสถานผิดพลาดมากเช่นนี้ได้อย่างไร และทำไมจึงไม่มีแผนฉุกเฉินสำรองไว้สำหรับการอพยพพลเมืองอเมริกันและพันธมิตร

ตอลิบานแถลงยืนยัน บ้านเมืองสงบเรียบร้อย

สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหประชาชาติและแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ทหารของกองทัพรัฐบาลอัฟกานิสถานจำนวนหนึ่งถูกนักรบของกองกำลังตอลิบานสังหาร แม้ทหารของรัฐบาลจะขอยอมแพ้และวางอาวุธหลังกลุ่มตอลิบานบุกยึดกรุงคาบูล แต่โฆษกของตอลิบานยืนยันว่า ไม่ได้รับรายงานใดๆ เกี่ยวกับกับการสังหารทหารฝ่ายรัฐบาล พร้อมย้ำว่า "สถานการณ์ในประเทศดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย" และ Aljazeera รายงานอ้างอิงคำแถลงของ 'อับดุล ซัตทาร์ เมียร์ซาควาล' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของอัฟกานิสถานที่ยืนยันว่าประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะการเปลี่ยนผ่านอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น

ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศส เยอรมนี นิวซีแลนด์ ระบุว่าจะนำพลเมืองของตนที่ยังอยู่ในอัฟกานิสถาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ชาวอัฟกานิสถานที่ทำงานกับรัฐบาลของตนเดินทางออกนอกประเทศ เพราะเกรงว่าบุคคลกลุ่มนี้จะตกเป็นเป้าโจมตีหรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากกลุ่มตอลิบานและกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ที่เป็นแนวร่วมของตอลิบาน

ทางด้าน CNN รายงานว่า 'อันตอนิยู กูร์แตรีช' เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้เรียกประชุมด่วนกับตัวแทนประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อหารือแนวทางให้ตอลิบานยุติปฏิบัติการทางอาวุธซึ่งมีผลต่อสวัสดิภาพของพลเรือนในอัฟกานิสถาน แต่ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ระบุว่า ชาวอัฟกันจำนวนมากรู้สึกว่าพวกเขาถูกประชาคมโลกทอดทิ้ง เพราะไม่อาจทราบชะตากรรมว่าผู้ที่เคยเป็นฝ่ายอดีตรัฐบาลอัฟกานิสถานหรือกองทัพสหรัฐฯ จะถูกตอบโต้หรือถูกดำเนินการอย่างไรภายใต้ยุคที่ตอลิบานบริหารประเทศ