หลังเกิดวิกฤตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และไวรัสกลายพันธุ์อีกหลายชนิดแพร่ระบาดทั่วอินเดีย ตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นมา ในที่สุดรัฐบาลอินเดียก็ประกาศว่าสามารถคุมจำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองหลวงให้เหลือศูนย์รายต่อวัน โดยระบุว่าได้เร่งกระจายฉีดวัคซีนประชาชนแบบปูพรมและจัดเตรียมออกซิเจนช่วยหายใจเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างส่งตัวไปรักษาอาการ พร้อมเจรจากับองค์การอนามัยโลกเรื่องจัดสรรวัคซีนในโครงการ COVAX คาดว่าจะได้วัคซีนจากโมเดอร์นาอีก 7.5 ล้านโดส

หนังสือพิมพ์ Hindustan Times สื่อของอินเดีย รายงานอ้างอิงคำแถลงของหน่วยงานสาธารณสุข ระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.เป็นต้นมา ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย โดยผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวัน ลดลงเหลือ 51 ราย จากที่เคยแตะระดับสูงสุดหลายพันรายในนิวเดลี และกว่า 50,000 รายทั่วประเทศช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา

รัฐบาลกลางอินเดียระบุว่า ในเวลาเพียง 3 เดือน ระหว่าง เม.ย.-มิ.ย. มีผู้เสียชีวิตสะสมจากโรคโควิดในกรุงนิวเดลีถึง 13,210 ราย โดยสถิติสูงสุดคือวันที่ 3 พ.ค. มีผู้เสียชีวิตในเขตเมืองหลวงรวม 448 รายในวันเดียว ก่อนที่ตัวเลขจะค่อยๆ ลดระดับลงมาจนเป็นศูนย์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานของฮินดูสถานไทม์ส ระบุด้วยว่า จำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนรายวันเพิ่มจำนวนขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม โดยในรอบ 1 วันที่ผ่านมา มีผู้ได้รับฉีดวัคซีนรวม 71,786 ราย และสถิติผู้ที่ได้รับวัคซีนสะสมทั่วกรุงนิวเดลีนับตั้งแต่เดือน ม.ค. มีจำนวนกว่า 9.3 ล้านราย แต่รัฐบาลก็ยอมรับว่าต้องเร่งฉีดวัคซีนอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะประชากรทั้งหมดของอินเดียมากเป็นอันดับ 1 ของโลก 

ส.ว.จี้รัฐบาลแจกแจงปริมาณสำรองออกซิเจนช่วยหายใจ

แม้จะมีข่าวดีในกรุงนิวเดลี แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุขในรัฐอื่นๆ รวมถึงสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ระบุว่าสถิติผู้ป่วยโควิดที่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการรักษาพยาบาล รวมถึงปัญหาขาดแคลนเครื่องช่วยหายใจยังเกิดขึ้นในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเว็บไซต์ India Today รายงานว่า เคซี เวนุโกพัล ส.ว.อินเดีย เรียกร้องผ่านราชยสภาให้รัฐบาลชี้แจงตัวเลขออกซิเจนเหลวที่มีสำรองไว้ในระบบ

เวนุโกพัลระบุว่า ช่วงโควิดแพร่ระบาด มีผู้ป่วยเสียชีวิตจำนวนมากขณะอยู่บนถนนเพื่อนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาล เพราะบนรถที่ใช้เคลื่อนย้ายไม่มีออกซิเจนเพียงพอสำหรับเครื่องช่วยหายใจ และผู้ติดเชื้อโควิดอีกเป็นจำนวนมากถูกโรงพยาบาลปฏิเสธเข้ารับการรักษา เพราะไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือเพียงพอ และเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบ

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียจึงได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าปริมาณออกซิเจนในประเทศมีเพียงพอ และไม่มีผู้เสียชีวิตจากการขาดออกซิเจนช่วยเหลือในช่วงที่เกิดแพร่ระบาดระลอกใหม่ พร้อมทั้งระบุว่ามีการเพิ่มปริมาณออกซิเจนสำรองจากปกติ 3,095 เมตริกตัน เพิ่มเป็น 9,000 เมตริกตันในช่วงเกิดโรคโควิดระบาดที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อินเดียยังพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 38,164 รายต่อวัน เมื่อ 21 ก.ค. ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 31,143,595 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 414,141 ราย โดย 24 ช.ม.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 501 รายทั่วประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตสะสมที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าที่รัฐบาลรวบรวมได้ในขณะนี้ เพราะยังมีอีกหลายกรณีที่รอการชันสูตร หรืออีกหลายรายไม่ได้มีการตรวจสอบที่รัดกุมเพียงพอ

เตรียมรับวัคซีน mRNA จากโมเดอร์นา 7.5 ล้านโดส 

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันข้อมูลว่ารัฐบาลอินเดียได้ติดต่อขอเจรจากับบริษัทโมเดอร์นา เพื่อขอรับวัคซีนในโครงการกระจายวัคซีน COVAX ที่ WHO ร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้รับวัคซีนโควิดอย่างทั่วถึง และมีคำยืนยันว่าโมเดอร์นาเห็นชอบว่าจะจัดหาวัคซีน 7.5 ล้านโดสให้แก่อินเดีย แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะส่งมอบให้กันอย่างไร หรือมีเงื่อนไขดำเนินการอย่างไร

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมแห่งอินเดีย ระบุว่า วัคซีนโควิดที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินทั่วประเทศ ประกอบด้วย 

1. โคแวกซีน (Covaxin) วัคซีนเชื้อตาย ผลิตโดยบริษัทภารัตไบโอเทค ร่วมกับสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย 
2. โควิชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนไวรัลเวกเตอร์ ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า แต่ผลิตโดยสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย 
3. สปุตนิกวี (Sputnik-V) วัคซีนแบบไวรัลเวกเตอร์จากรัสเซีย ได้รับอนุญาตใช้งานเมื่อเดือน เม.ย.
4. โมเดอร์นา (Moderna) วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม mRNA จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา ได้รับอนุญาตในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา