สรุป
- ศาลอนุญาตให้ประกันตัว พอร์ท ไฟเย็น จากคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีเงื่อนไขห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อีก
- พอร์ท ไฟเย็น ได้รับการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ขณะนี้อยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำให้การไต่สวนประกันตัวต้องทำผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
- พอร์ท กล่าวว่า แดน 6 ที่เขาถูกควบคุมตัวนั้นมีผู้ตรวจพบเชื้อโควิดมากกว่าครึ่ง และการควบคุมโควิดของเรือนจำมีปัญหา
- กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงผลการตรวจโควิดเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเชิงรุก 100% พบติดโควิดแล้วกว่า 2,000 ราย ตอนนี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสนาม ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากพบมีอาการรุนแรงจะส่งไปยังโรงพยาบาลภายนอกต่อไป
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้ (12 พ.ค.) ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัว ปริญญา ชีวินปฐมกุล หรือ พอร์ท ไฟเย็น ศิลปินและนักดนตรีวงไฟเย็น ที่ถูกควบคุมตัวจากคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 3 โพสต์ ตั้งแต่ปี 2559 โดยหลังไต่สวนศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามทำกิจกรรมหรือใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล
การไต่สวนคำร้องนี้สืบเนื่องจากทนายความเข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพอร์ทเป็นครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ใช้หลักทรัพย์ประกันเงินสด 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และมีแม่เป็นนายประกัน จากนั้นศาลได้มีคำสั่งนัดให้ไต่สวนในวันนี้ โดยในเช้าวันนี้เป็นการไต่สวนผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากบ่ายของวันที่ 11 พ.ค. ทางเรือนจำพบว่า พอร์ท ติดเชื้อโควิด และถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่ค่ำของวานนี้ (11 พ.ค.) จึงไม่สามารถเบิกตัวมาศาลได้
โดย พอร์ท ได้แถลงต่อศาลยอมรับเงื่อนไขว่าจะไม่ทำหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบันกษัตริย์ และจะไม่กระทำความผิดข้อหาเดิมซ้ำอีก จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีไม่ได้คัดค้านการประกันตัว นอกจากนี้ พอร์ท ยังเบิกความอีกว่า ตนมีโรคประจำตัวรวมทั้งสิ้น 3 โรค ได้แก่ โรคตับอ่อนอักเสบ โรคเบาหวาน และโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งจะต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งจากการตรวจพบเชื้อโควิดทำให้ตนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ พร้อมกันนี้พอร์ท ยังบอกด้วยว่า แดน 6 ที่เขาถูกคุมขังนั้นมีผู้ที่ตรวจพบเชื้อโควิดมากกว่าครึ่งแล้ว และการควบคุมโควิดของเรือนจำมีปัญหามาก
จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองติดโควิด 7 รายแล้ว ได้แก่ อานนท์ นำภา, ชูเกียรติ แสงวงค์, ธวัช สุขประเสริฐ, ศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี, สมคิด โตสอย และฉลวย เอกศักดิ์ และปริญญา ชีวินปฐมกุล รวมทั้งยังมีผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว แต่ตรวจพบว่าติดโควิดจากเรือนจำอีก 2 ราย ได้แก่ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และพรชัย
ราชทัณฑ์ แจงตรวจเชื้อเชิงรุกในเรือนจำพบติดเชื้อแล้วกว่า 2,000 ราย
ด้านกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่าได้ตรวจเชิงรุกเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง 100% ทำให้พบผู้ติดเดชื้อในทัณฑสถานหญิงกลาง รวม 1,040 ราย และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครรวม 1,795 ราย ซึ่งทุกรายอยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากบางรายมีอาการหนักจะมีการย้ายออกเพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้ โดยในแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม มีแพทย์และพยาบาลดูแลใกล้ชิด อีกทั้งยังมีแผนการฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วยอยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิดเชิกรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ด้วยวิธี RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องจังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัว เพื่อสังเกตอาการได้