Skip to main content

ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Prab Laoharojanaphan โพสต์แสดงความอาลัยของเพื่อนที่จากไปด้วยโรคโควิด-19 โดยมีเนื้อหาสรุปว่า ใครที่โตทันยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก 'พี่อัพ VGB' กุลทรัพย์ วัฒนผล Kunlasub Wattnaphon หัวหน้าแคลน VGB (Vagabond Team) ทีมอีสปอร์ตที่ใหญ่มากๆ เมื่อ 17 ปีก่อน ส่งแข่งทุกรายการ กับเกมทุกประเภท ตั้งแต่เกมแข่งรถ เกมฟุตบอล ไปจนถึงเกมวางแผนการรบ

หลังจากที่ครอบครัวซื้อคอมพิวเตอร์ที่เล่นเกมได้เครื่องแรกตอน ม.3 ซึ่งเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงชุมชนออนไลน์ของเหล่าฮาร์ดคอเกมเมอร์ (ไม่ใช่แค่เล่นเกมออนไลน์ แต่เป็น PC Master Race) ที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงเด็กเนิร์ดไม่กี่คนจากโรงเรียน-มหาลัยต่างๆ การได้รู้จักกับพี่อัพถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตวัยเด็ก

"หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี แต่วันนี้ทราบข่าวแล้วว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก ขอนำ timeline ของพี่อัพที่ พี่ภูภู่สรุปไว้สั้นๆ มาเล่าต่อครับ Wisaruth Wisidh 
          17 เม.ย. - เขาตั้งสเตตัสว่ากักตัวเองมา 5 วันแล้ว ไม่มีโควต้า รพ.ไหนให้เขาเข้าไปตรวจ
          21 เม.ย. - เขาเข้าแอดมิด ตรวจพบเชื้อ และเชื้อลงปอดไปแล้ว จำเป็นต้องต่อเครื่องช่วยหายใจ
          13 ชั่วโมงที่ผ่านมา - เขาเข้า ICU ออกซิเจนเหลือ 80 กว่า ปอดเสียหายไปแล้วกว่า 80%
          เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา - หัวใจเขาหยุดเต้น หมอได้ทำการขออนุญาตปั้มหัวใจ
          เพิ่มเติม เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา – เขาได้จากไปแล้วครับ

หากระบอบแห่งความล้มเหลวยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อไป จากนี้ไปเราจะมีความทรงจำร่วมกันว่า ใครใกล้ตัวที่จากเราไปบ้าง ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศนี้ ขอบคุณพี่อัพสำหรับความทรงจำในวัยเด็กที่พิเศษที่สุด ด้วยรักตลอดไป จาก LerSuang (VGB TEAM B )"

 

รพ.เอกชนแจง 'ค่อม ชวนชื่น' อาการทรุดหนักจึงขอส่งต่อ รพ.อื่น ไม่มีเรื่องเส้นสาย

 

นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม ชี้แจงกรณีที่ส่งต่อผู้ป่วย อาคม ปรีดากุล หรือ 'ค่อม ชวนชื่น' นักแสดงตลกชื่อดัง ติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อลงปอดจนมีอาการทรุด ปอดอักเสบ เกิดภาวะไตวาย ไปที่สถาบันการแพทย์รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ เบื้องต้น น้าค่อมเป็นผู้สูงอายุแล้ว มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ไปตรวจเจอพบเชื้อโควิด-19 ตอนแรกอาการยังไม่มาก ไปอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในเครือของเรา แต่ปอดมีอาการอักเสบมากขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น จึงได้ย้ายมาที่โรงพยาบาลวิภาราม ซึ่งมีห้องไอซียูความดันลบอยู่ 12 เตียง ขณะนั้นจังหวะเตียงว่างพอดี หลังจากที่ให้ยาไปแล้วอาการของน้าค่อมก็ทรุดลงอีก จนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและใส่เครื่องช่วยหายใจ ซ้ำร้ายเมื่อวานยังมีภาวะไตวายเฉียบพลัน จึงทำการฟอกเลือดฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากฟอกเลือดก็ดีขึ้น จึงมองไปข้างหน้าว่าจะทำอย่างไรต่อได้บ้าง นอกเหนือจากที่เราสามารถทำได้เต็มที่

อย่างเช่นเครื่องเอ็กโม (ECMO) อาจจะต้องใช้หรือไม่ เราไม่ทราบ แต่อย่างน้อยเรารู้แล้วว่าถ้าถึงตรงนั้นมันจะช้าไป จึงติดต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศิริราช พบว่าเตียงเต็ม พอดีได้ที่สถาบันการแพทย์รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ จังหวะที่คนไข้ออกไปพอดี สามารถที่จะเข้าไปได้พอดี เป็นจังหวะที่ส่งต่อผู้ป่วยปกติ (Refer) ระหว่างโรงพยาบาลด้วยกัน จึงอยากทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำในระบบสาธารณสุขเราไม่ได้เลือกรัฐหรือเอกชน ทำที่ไหนพอถึงเวลาที่ทำศักยภาพให้ได้มากขึ้น ให้ได้เต็มที่กับคนทุกคนที่อยู่ในเมืองไทย ไม่เฉพาะคนไทย ทุกชีวิตมีค่า เราดูแลให้ดีที่สุด ให้ทุกคนรอดปลอดภัย อยากจะขอชี้แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องเส้นสายเรื่องอะไรเลย เป็นเรื่องของทางคลีนิคล้วนๆ

 

คืนแรกโรงพยาบาลสนามศูนย์เด็กเล็กดอยสะเก็ด พ่อแม่เดินออกพร้อมน้ำตา

 

ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ เฟซบุ๊ก ดอยสะเก็ด เพชรแห่งลานนา เปิดเผยภาพของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลแม่คือ คืนแรก หลังปรับเป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ ว่า เด็กๆ กำลังปรับตัวสำหรับการนอนคืนแรก เวลา 17.52 น. รถพยาบาลนำผู้ป่วย (คุณครู) และบุตร จำนวน 4 คน มาที่โรงพยาบาลสนามพร้อมรับฟังวิธีการดูแลเด็กเล็ก เวลา 18.08 น. ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาส่งและรับฟังข้อมูลเบื้องต้นในการดูแลเด็ก และเดินไปส่งเด็กเข้าพื้นที่โรงพยาบาลสนาม เวลา 18.14 น. เด็กเล็ก จำนวน 16 ราย เข้าสู่โรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจ เด็กๆ มีร้องไห้บางคน บางคนเดินเข้าพื้นที่แล้ววิ่งไปหาของเล่น พ่อแม่ผู้ปกครองเดินออกพร้อมน้ำตา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขเริ่มปฏิบัติงาน ติดตามเฝ้าประเมินเด็กเล็กอย่างเต็มที่ Cr:เทศบาลตำบลแม่คือ

 

ศบค.เผยผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ 2,839 ราย เสียชีวิต 8 นาย 

 

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ (24 เม.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,839 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,523 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 304 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย
          
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 53,022 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 28,378 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 21,378 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3,266 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 30,566 ราย เพิ่มขึ้น 377 ราย กำลังรับการรักษา 22,327 ราย อาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 113 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 129 ราย