ผลสำรวจความคิดเห็นจากสำนักข่าวเกียวโด นิวส์ของญี่ปุ่น พบประชาชนชาวญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศและนโยบายความมั่นคงที่กระตุ้นความตึงเครียดของรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ
รายงานระบุว่าชาวญี่ปุ่นราวร้อยละ 64.9 ไม่เห็นด้วยกับแผนการเพิ่มการจัดเก็บภาษีที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งมีเป้าหมายหาเงินทุนจุนเจืองบประมาณด้านการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา คิชิดะเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับความมั่นคงและการป้องกันประเทศฉบับปรับปรุง ซึ่งรวมถึงยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ บ่งชี้การเปลี่ยนแปลงอันมีนัยสำคัญต่อนโยบายความมั่นคงในยุคหลังสงครามของญี่ปุ่น
ผลสำรวจยังพบชาวญี่ปุ่นร้อยละ 53.6 คัดค้านแผนการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ ระยะ 5 ปี นับจากปีงบประมาณหน้า ขณะประชาชนร้อยละ 39 เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าว
นอกจากนั้นชาวญี่ปุ่นร้อยละ 87.1 มองว่าคิชิดะไม่สามารถอธิบายแผนการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลและภาษียาสูบเพิ่มเติมเพื่ออุดหนุนงบประมาณด้านการป้องกันประเทศได้อย่างเพียงพอ ซึ่งสวนทางกับประชาชนร้อยละ 7.2 ที่มองว่าคำอธิบายของคิชิดะนั้นเพียงพอแล้ว
เอกสารด้านความมั่นคงที่คิชิดะนำเสนอนั้นมีเป้าหมายอยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า “สมรรถนะการตอบโต้” อันหมายถึงญี่ปุ่นจะมีความสามารถโจมตีดินแดนของประเทศอื่นๆ โดยตรง
ผลสำรวจพบชาวญี่ปุ่นร้อยละ 61 มองว่าความสามารถดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความตึงเครียดกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ขณะประชาชนร้อยละ 33.9 มองว่าไม่ใช่สิ่งที่น่าวิตกกังวล
การสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวฯ จัดทำผ่านการสอบถามระหว่างวันเสาร์-วันอาทิตย์ (17-18 ธ.ค.) ผ่านโทรศัพท์บ้านกับ 509 ครัวเรือนที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และผ่านโทรศัพท์มือถือ 2,245 เลขหมาย ซึ่งได้การตอบรับจาก 425 ครัวเรือน และโทรศัพท์มือถือ 626 เลขหมาย
ที่มา : Xinhua