Skip to main content

 

มีงานวิจัยล่าสุดพบว่า “แมว” ที่มีอายุมาก จะมีภาวะหลงๆ ลืมๆ รวมถึงอาการของโรคสมองเสื่อมคล้ายมนุษย์ที่เข้าสู่วัยชรา ผลการศึกษานี้ อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์พัฒนาวิธีรักษาภาวะสมองเสื่อมในแมว รวมถึงการรักษาโรคอัลไซเมอร์ในคนได้ในอนาคต

“แมว” เมื่อมีอายุมากขึ้น อาจมีพฤติกรรมร้องโหยหวนในตอนกลางคืนบ่อยกว่าปกติ รวมถึงอาจมีปัญหาเรื่องการนอน เช่น นอนหลับยาก หรือนอนมากเกินไป และมีพฤติกรรมสับสนหรือหลงทิศทาง ซึ่งงานวิจัยชิ้นใหม่ที่นำโดย โรเบิร์ต แม็กกีแชน สัตวแพทย์ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์ พบว่า เกิดจากภาวะสมองเสื่อมตามวัยซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์

รายงานการวิจัยนี้ เผยแพร่เมื่อสิงหาคม 2025 ในวารสาร European Journal of Neuroscience เผยว่า สมองของแมวสูงวัยจะมีการสะสมของคราบโปรตีน “อะไมลอยด์เบตา” เช่นเดียวกับมนุษย์ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดพฤติกรรมคล้ายคลึงกันของการเกิดภาวะสมองเสื่อม

ในสภาวะปกติ “อะไมลอยด์เบตา” เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของโปรตีนที่เรียกว่า Amyloid Precursor Protein (APP) และโปรตีนนี้จะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดย “ไมโครเกลีย” ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่เล็กที่สุดในระบบประสาทส่วนกลาง ที่ควบคุมการอักเสบ และช่วยรักษาสภาพแวดล้อมของสมอง

แต่เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น อะไมลอยด์เบตา จะสะสมและก่อให้เกิดปัญหากับการทำงานของสมอง ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาลูกโซ่ภายในสมอง เช่น การทำงานมากเกินไปของเซลล์ภูมิคุ้มกัน และ “เซลล์เกลีย” หรือ เซลล์พยุงสมอง ที่ช่วยดูแลให้เซลล์ประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหันไปทำลาย “ไซแนปส์” หรือจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท

มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ ที่พบ อะไมลอยด์เบตา ในสมองของแมวมาแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่า มันรบกวนการทำงานของสมองมากน้อยเพียงใด แต่งานวิจัยนี้ นักวิจัยทราบดีว่า ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ จำนวนไซแนปส์จะลดลง โรเบิร์ตและทีมวิจัยจึงโฟกัสไปที่การเชื่อมต่อเหล่านี้ในการศึกษาเกี่ยวกับแมว โดยตรวจสอบสมองหลังการเสียชีวิตของแมวอายุน้อย 7 ตัว และแมวสูงวัย 18 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มี 8 ตัวที่แสดงพฤติกรรมบ่งชี้ถึงภาวะสมองเสื่อม

ทีมวิจัยใช้สารเรืองแสงที่สามารถจับกับอะไมลอยด์เบตาในสมองของแมวสูงวัย ไม่ว่าจะมีภาวะสมองเสื่อมหรือไม่ พบว่า มีโปรตีนชนิดนี้มากกว่าสมองของแมวที่อายุน้อย นอกจากนี้ คราบอะไมลอยด์เบตาในแมวสูงวัยยังมักสะสมอยู่ใกล้กับไซแนปส์มากเป็นพิเศษ

นักวิจัยพบด้วยว่า ในแมวสูงวัยทุกตัว จะมีการทำงานของไมโครเกลียที่มากผิดปกติ และรวมตัวอยู่ใกล้ก้อนอะไมลอยด์เบตา ซึ่งบ่งชี้ว่า พวกมันถูกส่งมาจัดการอะไมลอยด์เบตา แต่ดูเหมือนมันจะทำลายไซแนปส์บางส่วนไปด้วย

โรเบอร์ตา มารองจิว นักประสาทวิทยาจาก Weill Cornell Medicine ในนิวยอร์ก ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยนี้ เผยว่า ในสมองของคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ไมโครเกลีย ที่รวมตัวอยู่รอบคราบอะไมลอยด์เบตา ก่อความเสียหายต่อเซลล์ประสาทและการเชื่อมต่อของไซแนปส์อย่างมากด้วยเช่นกัน

ทีมวิจัยระบุว่า ความคล้ายคลึงกันที่ค้นพบนี้ อาจทำให้แมวเป็นแบบจำลองที่ดีของโรคอัลไซเมอร์ในมนุษย์ ซึ่งปัจจุบัน การศึกษาอาการของโรคอัลไซเมอร์มักใช้หนูทดลองที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้เกิดโรค ในทางตรงกันข้าม แมวสูงวัยสามารถเกิดภาวะสมองเสื่อมขึ้นเองตามธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ยังมีจำนวนตัวอย่างแมวไม่มากนัก และทีมวิจัยยังคงเดินหน้าศึกษาต่อไป แต่ผลลัพธ์เหล่านี้อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจการแก่ชราของแมวได้ดีขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีรักษาภาวะสมองเสื่อมในแมว รวมถึงให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับอาการของโรคอัลไซเมอร์ในมนุษย์ด้วย


ที่มา
Elderly cats with dementia may hold clues for Alzheimer’s