ยุโรป กำลังเร่งเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านสีเขียว ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอน ทำให้มีความต้องการแรงงานทักษะฝีมือจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในงานตั้งแต่การติดตั้งหน้าต่างประหยัดพลังงาน ไปจนถึงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน โดยมีการเปิดโรงเรียนอบรมทักษะวิชาชีพขึ้นทั่วยุโรป ในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนเพื่อเป็นกำลังในการช่วยขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนผ่าน

สถาบันอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย Northwest Zealand (NEG) ในประเทศเดนมาร์ก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโคเปนเฮเกนราว 1 ชม. มีนักเรียน 180 คน ลงทะเบียนเรียนงานช่างต่างๆ เช่น งานกระจก งานมุงหลังคา และงานก่อสร้าง โดยผสมผสานการเรียนในห้องเรียนเข้ากับประสบการณ์ปฏิบัติจริง

โรเบิร์ต โฮล์มควิสต์ นักศึกษาด้านปรัชญาและประวัติศาสตร์ ซึ่งมาสมัครเรียนที่ NEG บอกว่า เขาเป็นคนชอบความคิดสร้างสรรค์ และชอบงานที่ผลิตขึ้นจากมือมาโดยตลอด และมีความคิดว่าอยากเรียนสายอาชีพ จากนั้น ก็ได้มาเจออาชีพช่างกระจกที่ NEG ซึ่งน่าสนใจมาก

โรเบิร์ตบอกว่า แม้เขาจะอายุค่อนข้างเยอะ แต่ไม่เคยรู้สึกว่าสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และหากว่าเปิดใจ ทุกอย่างก็เป็นไปได้เสมอ

โรงเรียนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Clever Hands for the Future ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนยุโรปเพื่อสังคม เป็นจำนวน 1.95 ล้านยูโร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนนักเรียนที่เข้าสู่การศึกษาสายอาชีพ

โครงการนี้ เป็นหนึ่งในการลงทุนของสหภาพยุโรปด้านการศึกษาและทักษะ ระหว่างปี 2021 ถึง 2027 มีมูลค่ากว่า 150,000 ล้านยูโร โดยเน้นที่ภาคพลังงานและดิจิทัล

มียา จุสต์ สตรุคมันน์ แบร์เทลเซน ที่ปรึกษาโครงการและครูจากโครงการ NEG บอกว่า เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ การรับนักเรียนเพิ่ม เพื่อดึงดูดเยาวชนให้เข้ามาสู่การเรียนสายอาชีพมากขึ้น

“ผมรู้ตัวว่า ไม่อยากไปในสายวิชาการ มันเลยดีกว่าหากจะทำงานด้วยมือสองข้างของตัวเอง มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการผลักดันไปสู่พลังงานสีเขียว และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในงานของเรา ซึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเรา” แอสเกอร์ มารุป นักเรียนของ NEG กล่าว

รอกซานา มุนซาตู รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ฝ่ายสิทธิทางสังคม ทักษะ งานที่มีคุณภาพ และการเตรียมความพร้อม บอกว่า สำหรับคนทั่วไป สิ่งสำคัญคือพวกเขาสามารถเดินทางไปทำงานได้ทั่วทุกประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปพร้อมประกาศนียบัตรที่ได้รับมา และสามารถเลือกงานหรืออุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับทักษะของพวกเขามากที่สุดได้

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังเดินหน้าส่งเสริมให้นักเรียนสายอาชีพเข้าร่วมโครงการนานาชาติ เช่น Erasmus+ มากขึ้น รวมถึงมุ่งลดช่องว่างระหว่างเพศในงานสายอาชีพนี้ลง

แม้การฝึกทักษะอาชีพ จะช่วยเตรียมความพร้อมไปสู่อาชีพที่มั่นคงมากกว่า สายงานที่ต้องเรียนจบจากสถาบันการศึกษา แต่ก็ยังมีคนสนใจมาสมัครเรียนไม่มากนัก แต่โรงเรียนสอนทักษะฝีมือ NEG ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้

โรเบิร์ตบอกว่า การสนับสนุนของสหภาพยุโรป เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังคนที่ต้องการสำรวจเส้นทางอาชีพใหม่ๆ สิ่งที่เขาอยากบอกคือ ที่ NEG มีทางเลือกมากมายกว่าที่คิด ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่ดีสำหรับชีวิตการทำงานในอนาคต

ที่มา
Meet the Danish students training in skilled trades to power Europe’s green transition