Skip to main content

 

ที่เมืองมาจิดะ ซึ่งอยู่แถบชานเมืองของมหานครโตเกียว ได้เริ่มโครงการสำหรับผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม ด้วยการทำให้พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน การได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่ป่วยแบบเดียวกันและมีความเข้าอกเข้าใจกัน ช่วยยับยั้งไม่ให้อาการย่ำแย่ลง

เมืองมาจิดะ อยู่ในเขตภูเขาและมีพื้นที่ป่า เช้าวันหนึ่ง สมาชิกกลุ่ม “ชมรมเพื่อนคนสมองเสื่อม” หรือ “D-Friends Machida” ราว 20คนมารวมตัวกันที่ป่าไผ่ ส่วนมากของสมาชิกเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการสมองเสื่อม กิจกรรมของวันนั้นคือ การช่วยกันทำม้านั่งจากไม่ไผ่ โดยแบ่งกลุ่มและทำงานร่วมกัน บางคนใช้เลื่อยตัดต้นไผ่ความสูงเกือบ 20 เมตรลงมา บางคนช่วยดันให้ต้นไผ่ล้มสู่พื้น หลายคนช่วยกันริดกิ่งก้าน และตัดต้นไผ่ออกเป็นท่อนๆ ผู้สูงอายุบางคนคอยตะโกนให้กำลังใจและดูเรื่องความปลอดภัยให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังขะมักเขม้นทำงาน พวกเขาก็ช่วยกันทำม้านั่งไม้ไผ่เสร็จ 2 ตัวภายในชั่วโมงเดียว

จากนั้น สมาชิกชมรมก็ล้อมวงกินอุด้งร่วมกัน และพูดคุยอย่างอิสระและสนุกสนาน สองเดือนหลังจากนั้น ม้านั่งไม้ไผ่ทั้งสองตัวถูกใช้เป็นที่นั่งสำหรับการชมคอนเสิร์ตในสวนป่าไผ่แห่งนั้น

โอกาโมโตะ คานจิ ในวัย 84 ปี เป็นคนที่สมาชิกในกลุ่มรักมากที่สุด เวลาส่วนใหญ่คุณตาต้องไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย แต่เมื่อมาที่ชมรม D-Friends Machida ก็จะมีโอกาสได้พูดคุย หัวเราะอย่างอิสระและร่าเริงร่วมกับเพื่อนๆ

ก่อนหน้านี้ โอกาโมโตะเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ในบริษัทขนาดใหญ่ ต่อมาเขาได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการสมองเสื่อมเมื่อปี 2008 และต้องลาออกจากงาน

“ทุกคนหากมีอายุยืนยาวนานพอ ก็ต้องหลงๆ ลืมๆ แหละ แต่ถ้าเราคิดเกี่ยวกับมันมากเกินไป และไม่พยายามสู้กับมัน เราจะหยุดอยู่ตรงนั้น ผมสู้กับความกลัว ผมบอกตัวเองว่า ฉันยังเป็นฉันคนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง” คุณตาโอกาโมโตะบอก

17 ปีที่โอกาโมโตะต้องอยู่กับภาวะสมองเสื่อม และรู้สึกเหนื่อยล้า แต่การครอบครัวที่เปิดกว้าง ยอมให้คุณตามีอิสระในการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองพอใจ และร่วมเป็นสมาชิกของกิจกรรมในป่าไผ่

“ที่กลุ่มนี้แตกต่างไปจากศูนย์ดูแลคนป่วย ที่ภูเขานี้ ผมสามารถทำอะไรหลายอย่าง ได้สนุกสนาน และได้กินอุด้งด้วย” คุณตาโอกาโมโตะกล่าว

คุณตาบอกว่า สมาชิกในกลุ่มไม่ได้คาดหวังว่า จะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในฐานะผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม พวกเขาปฏิสัมพันธ์กันอย่างอิสระ และให้กำลังใจกันและกันด้วยความเข้าอกเข้าใจกัน

ปัจจุบัน คุณตาโอกาโมโตะเป็นผู้อำนวยการสตูดิโออกแบบของตัวเอง มีพนักงาน 8 คน คุณตาจะเข้าออฟฟิศทุกวันหลังจากไปที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย ยกเว้นวันพฤหัสที่มาเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มกับ  D-Friends Machida ในป่าไผ่

มัตสุโมโตะ อายาโกะ หัวหน้าชมรม D-Friends Machida บอกว่า การเห็นคนเหล่านี้ทำงานร่วมกันและพูดคุยกันแบบปรกติ ทำให้แทบนึกไม่ออกเลยว่า พวกเขากำลังทุกข์ทรมานกับโรคสมองเสื่อม

มัตสุโมโตะ เล่าว่า กลุ่มกิจกรรมไม้ไผ่เริ่มก่อตั้งในปี 2018 จากการที่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมส่วนใหญ่บอกว่า อยากที่จะทำงานหรืออยากมีกิจกรรมทางกายภาพ ทางกลุ่มจึงเริ่มเช่าพื้นที่ป่าในส่วนที่ทางเมืองมาจิดะเป็นผู้ดูแล และเริ่มต้นกิจกรรรมนี้ ภายในเวลา 7 ปี ทำให้สมาชิกชมรมมีการพบปะกันเกือบ 300 ครั้ง

“สังคมมักมองข้ามคนป่วยโรคสมองเสื่อม แต่ที่กลุ่มนี้ พวกเขาได้เป็นตัวของตัวเอง สามารถมีความุขกับกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย และยังคงรู้สึกถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการจากโรคที่เป็น” มัตสุโมโตะกล่าว

ข้อดีที่สำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่พวกเขาเริ่มเปิดใจ จากการที่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมด้วยกัน มัตสุโมโตะบอกว่า ปรกติที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย การทำสิ่งต่างๆ ของผู้ป่วยจะถูกควบคุม และการผู้ดูแลมีภาระงานที่หนักมาก ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการดูแลทางด้านอารมณ์มากเท่าที่จำเป็น สิ่งนี้จึงทำให้หัวหน้าของศูนย์ผู้ดูแลผู้ป่วยส่งต่อผู้ป่วยให้มาเข้าร่วมกิจกรรมกับชมรม

ออนโซ อายาโกะ นักประสาทวิทยา ซึ่งใช้เวลาหลายปีกับการดูแลแม่ซึ่งป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมบอกว่า คนที่่มีปัญหาสมองเสื่อมมักไม่ยอมเปิดเผยกับคนในครอบครัว และมักต่อสู้กับอาการป่วยลำพัง เธอมองว่า ผู้ป่วยต้องการมากกว่าชีวิตประจำวันที่บ้านและการดูแลที่ศูนย์ผู้ป่วย การได้พบปะเพื่อนๆ ที่พวกเขาสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่ขะช่วยแบ่งปันความทุกข์จากโรค และนำพาพวกเขาออกจากความสิ้นหวัง

มัตสุโมโตะบอกว่า D-Friends Machida นั้นโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นของมาจิดะ ในการทำนโยบายรับมือกับโรคสมองเสื่อมแบบที่ให้เกียรติผู้ป่วย โดยทางเมืองใช้แนวทางความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นในการดูแลกับผู้ป่วย ซึ่งในปี 2040 คาดว่า สัดส่วนของผู้สูงอายุที่มีอาการสมองเสื่อมจะมีสัดส่วนอยู่ที่ราวร้อยละ 20

ขณะที่อีกหลายท้องถิ่นของญี่ปุ่นไม่ได้เตรียมการณ์รับมือกับผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมมากในระดับเดียวกันนี้   ในปี 2024 รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายเกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถ "อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีเป้าหมายในชีวิต" แต่ คุริตะ ชุน อิจิโร ผู้จัดการอาวุโสของสถาบันนโยบายสุขภาพ เชื่อว่า ยังมีช่องว่างที่ใหญ่มากระหว่างวัตถุประสงค์ของกฎหมายกับความเป็นจริง ขณะที่สังคมยังคงเชื่อว่า ภาวะสมองเสื่อมทำให้คนไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่ทวีความรุนแรงขึ้น บีบให้ญี่ปุ่นต้องเริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้


ที่มา
A Fresh Approach Gives Dementia Patients New Meaning