ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในจังหวัดคานากาวะ ประเทศญี่ปุ่น มีแนวคิดนำสัตว์เลี้ยงแสนรักมาอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุที่เป็นเจ้าของ เพื่อช่วยดูแลปลอบประโลมใจซึ่งกันและกันในช่วงบั้นปลายชีวิต ก่อนจะจากไปอย่างสงบ
การเผชิญหน้ากับช่วงเวลาอัสดงของชีวิตอาจทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องอยู่ในสถานพยาบาลมากกว่าการได้อยู่ในบ้านที่คุ้นเคยมาตลอดทั้งชีวิต
โอนิชิ นารุอากิ คอลัมนิสต์ของ นิปปอนดอทคอม บอกเล่าเรื่องราวของสถานดูแลผู้สูงอายุ “ซากุระ โน ซาโต ยามาชินะ” หรือ หมู่บ้านดอกซากุระบาน ในโยโกสุกะ จังหวัดคานากาวะ ที่ให้สัตว์เลี้ยงและเจ้าของที่อยู่ร่วมกันและแก่ตัวไปพร้อมกัน ได้มาอยู่คอยปลอบประโลมใจซึ่งกันและกันในช่วงปีท้ายๆ ของชีวิต
ซากุระ โน ซาโต ยามาชินะ สร้างขึ้นเมื่อปี 2012 มีห้องแบบเตียงเดี่ยว 100 เตียง และห้องชุดพิเศษจำนวน 10 ห้อง ซึ่งผู้สูงอายุที่มาพักสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขและแมวของพวกเขาได้ โดยทางสถานที่พักยินดีให้ผู้เข้าพักนำสัตว์เลี้ยงที่บ้านมาอยู่ด้วย หรือหากผู้มาพักต้องการแมวหรือสุนัขมาอยู่เป็นเพื่อน ทางสถานดูแลผู้สูงอายุก็จะมีสุนัขหรือแมวที่รับอุปการะมาจากที่พักพิงสัตว์ชั่วคราว มาอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุที่มาพัก
วาคายามะ มิชิฮิโกะ ผู้อำนวยการ ซากุระ โน ซาโต ยามาชินะ อธิบายว่า นี่คือรูปแบบใหม่ของการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ
วาคายามะ ทำงานเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนมัธยมปลายที่จังหวัดอิบารากิ เขาเป็นครูอยู่ 8 ปี ก่อนที่พ่อและแม่ของเขามีแผนที่จะทำศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และขอร้องให้วาคายามะมาช่วย ในตอนแรก วาคายามะมีความสุขดีกับการสอนหนังสือและไม่สนใจข้อเสนอของพ่อแม่ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุการจราจร ขณะกำลังขี่จักรยานมาโรงเรียนตามปรกติในตอนเช้า ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงความคิด
วาคายามะ ตัดสินใจทำตามความต้องการของพ่อแม่ ในปี 1999 ครอบครัวของเขาสร้าง โคโคโร โน ไก บริษัทบริการสวัสดิการสังคม และปีต่อมาก็เปิดบริการดูแลผู้สูงอายุ และบริการช่วยหางานให้กับผู้พิการ
ช่วงเวลานั้น วาคายามะ ได้ยินชายชราคนหนึ่งถูกบังคับให้ส่งสุนัขที่เขารักไปการุณยฆาต ก่อนที่เขาจะถูกพาไปอยู่บ้านพักคนชรา ชายชราคนนั้นไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย เขาพูดทั้งน้ำตาว่า “ฉันฆ่าคนในครอบครัวด้วยมือของฉันเอง” และหกเดือนต่อมา เขาก็เสียชีวิต
เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้วาคายามะหวาดกลัว และคิดหาวิธีที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของคนที่มาถึงช่วงบั้นปลายชีวิต เขาจึงเริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ของการมีที่สถานดูแลผู้สูงอายุจะอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงแสนรักของพวกเขามาอยู่ด้วย
ไม่นานหลังจาก ซากุระ โน ซาโตะ ยามาชินะ เปิดทำการ มีชายชราคนหนึ่งซึ่งอยู่กับสุนัขของเขาที่บ้าน เมื่ออาการสมองเสื่อมเริ่มรุนแรงขึ้น เขาไม่ยอมย้ายมาสถานดูแลผู้สูงอายุหากไม่ยอมให้นำสุนัขของเขามาอยู่ด้วย สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นอย่างมาก ในที่สุดเขาได้ย้ายเขามาอยู่ที่ ซากุระ โน ซาโตะ ยามาชินะ ที่ซึ่งเขาได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่กับเพื่อนรักสี่ขา เขาเสียชีวิตอย่างสงบ 6 เดือนหลังสุนัขของเขาจากไป
ที่ซากุระ โน ซาโตะ ยามาชินะ มีสุนัขพันธุ์ชิบะ ชื่อ “บันปุกุ” ที่รับอุปการะมาจากแหล่งพักพิงชั่วคราว และกลายหนึ่งในผู้อยู่อาศัยที่ป็อปปูลาร์ที่สุด
"บันปุกุ" เป็นสุนัขมหัศจรรย์ วัย 15 ปี เขามีสัมผัสพิเศษในการรับรู้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา สัมผัสพิเศษของบันปุกุเป็นที่รับรู้ของเจ้าหน้าที่สถานดูแลผู้สูงอายุ หากบันปุกุไปเฝ้าที่หน้าห้องของผู้พักอาศัยรายใด จะเป็นที่รู้ว่าคนๆ นั้นจะเสียชีวิตในอีก 2-3 วันต่อมา เมื่อบันปุกุรับรู้ว่ามีความตายอยู่ใกล้ๆ เขาจะกระโดดไปบนเตียงและเลียใบหน้าผู้ที่จะจากไปอย่างอ่อนโยน เพื่อปลอบประโลมใจ พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลาหลายปี

"บันปุกุ" สุนัขมหัศจรรย์ ภาพโดย Ōnishi Naruaki
แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น พฤติกรรมของบันปุกุค่อยๆ ลดลงไปตามการรับรู้กลิ่นที่ถดถอย ในปี 2019 วาคายามะ ตีพิมพ์หนังสือชื่อ “สุนัขมหัศจรรย์” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของบันปุกุ ซึ่งต่อมาถูกนำเสนอผ่านทางสถานีโทรทัศน์และนิตยสารต่างๆ จำนวนมาก
โอนิชิบอกว่า ไม่น่าแปลกใจ หากในอนาคตจะมีสถานดูแลผู้สูงอายุที่ทำแบบเดียวกันนี้เพิ่มมากขึ้น แต่วาคายามะกล่าวว่า แม้ว่าจะมีผู้สูงอายุมาพักที่สถานดูแลผู้สูงอายุของเขาจำนวนมากนับจากวันที่เปิดทำการ แต่ก็มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยว่าจะมีสถานดูแลผู้สูงอายุรายอื่นๆ ที่จะตั้งขึ้น จะทำในแบบเดียวกับเขา
มีความจริงที่ว่า มีอุปสรรคหลายอย่างในการทำให้สถานดูแลผู้สูงอายุเป็นที่ที่ผู้มาพักสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อนรักขนปุยของพวกเขาได้ เพราะมีเรื่องอาหารการกินของพวกเขา มีเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และยังต้องมีคนคอยพาออกไปเดินเล่น รวมถึงเรื่องของสุขอนามัยและกฎระเบียบที่เพิ่มมากขึ้น
วาคายามะ แน่ใจว่าความคิดของเขาถูกขับเคลื่อนโดยความปรารถนาที่จะมอบความรู้สึกสบายใจให้กับช่วงเวลาสุดท้ายของผู้สูงอายุที่มาพัก
“ความตายไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดปรกติเลย มันคือการกระทำท้ายสุดของชีวิต เป็นธรรมชาติที่มาเยือนทุกคน” วาคายามะกล่าว
ที่มา
A Home Where Old People Can Live Together with Their Pets