โครงการปักผ้าแบบดั้งเดิม ที่เคยใช้เยียวยาผู้หญิงญี่ปุ่นที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายเมื่อปี 2011 ถูกนำมาต่อยอดในการชุบชีวิตรองเท้าคู่เก่าให้กลับมีชีวิตใหม่ สดใส มีเสน่ห์เฉพาะตัว บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่น
เทคนิคการปักผ้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือ “ซาชิโกะ” ในสไตล์เฉพาะตัวของ โอสึจิ จังหวัดอิวาเตะ ถูกนำมาใช้ในการปรับโฉมรองเท้าผ้าใบคู่เก่าให้ออกมารองเท้าคู่ใหม่ที่สวยแปลกตา จนหลายคนมองว่า เป็นผลงานศิลปะที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็น เสน่ห์ของรองเท้าผ้าใบปักลวดลายนี้ยังเป็นที่รู้จักไปไกลถึงต่างประเทศ
“ซาชิโกะ” เป็นเทคนิคการเย็บผ้าหลายๆ ชั้นเข้าด้วยกัน เป็นทักษะที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นของคนในภูมิภาคโทโฮคุมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน แต่ทุกวันนี้ มีผู้หญิงหลายคนที่ใช้ซาชิโกะสไตล์โอซึจิ เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้กับรองเท้าผ้าใบคู่เก่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากโครงการ Sashiko Gals ที่ทำขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภาคตะวันออกเมื่อปี 2011ในการเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ให้กับพวกเธอ
อะราตะ ฟูจิวาระ เจ้าของบริษัทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายชาย และหัวหน้าโครงการ Sashiko Gals เขาทำงานร่วมกับกลุ่มผู้หญิงที่ทำงานเย็บปักผ้าแบบซาชิโกะจากโอสึจิในจังหวัดอิวาเตะ มาตั้งแต่หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2011
ในเดือนมีนาคมปี 2024 กลุ่มผู้หญิง 15 คนจาก Sashiko Gals เริ่มทำงานตกแต่งรองเท้าผ้าใบโดยใช้การเย็บปักแบบซาชิโกะในสไตล์โอสึจิ และเมื่อฟูจิวาระเริ่มทำธุรกิจเสื้อผ้าในโตเกียว ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เขาเชิญชวนให้สมาชิกของโครงการ Sashiko Gals มาร่วมกันออกแบบสร้างสรรค์ผลงานในธุรกิจเสื้อผ้าของเขา
สมาชิกรายหนึ่งของโครงการ Sashiko Gals ซึ่งอายุล่วงเข้าเลข 4 แล้ว บอกว่า การปักผ้าช่วยให้จิตใจที่ฟุ้งซ่านของเธอหลังเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สงบลงได้
“ตอนนี้ ฉันสนุกกับการทำงานตกแต่งรองเท้าผ้าใบ คิดถึงการออกแบบและจินตนาการถึงชิ้นงานที่จะสำเร็จออกมาหลังจากทำเสร็จแล้ว” เธอบอก
รองเท้าผ้าใบส่วนใหญ่ที่ใช้ในโครงการนี้เป็นรองเท้าเก่า หรือไม่ก็เป็นรองเท้าผ้าใบมือสอง การตกแต่งจะนำผ้าเก่ามาเย็บไว้ที่บริเวณด้านบนของรองเท้า บริเวณที่รองรับส้นเท้าและที่หัวรองเท้าซึ่งรองรับนิ้วเท้า และมีการปักลวดลายหลากสีสัน แพทเทิร์นต่างๆ กัน
เทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการตกแต่งมีความแม่นยำไม่ต่างจากการเย็บด้วยฝีจักร แต่สมาชิกของ Sashiko Gals สามารถทำให้ผลงานของพวกเธอให้ความรู้สึกถึงงานแฮนด์เมด โดยการเย็บด้วยฝีเข็มที่มีขนาดและองศาที่แตกต่างกัน ความอบอุ่นของงานเย็บด้วยมือ สามารถทำให้คนเชื่อว่าเป็นเคล็ดลับที่ทำให้รองเท้าผ้าใบ้ซาชิโกะกลายเป็นสินค้ายอดนิยม
สมาชิก Sashiko Gals บอกว่า งานตกแต่งรองเท้าผ้าใบด้วยเทคนิคซาชิโกะนี้ ต้องใช้ความตั้งใจในระดับที่สูงมาก ซึ่งพวกเธอจะสามารถทำงานนี้ได้ไม่เกิน 2 ถึง 3 ชั่วโมงต่อวัน และเนื่องจากต้องใช้ความตั้งใจและใส่ใจที่สูงมาก การตกแต่งรองเท้าหนึ่งคู่จึงใช้เวลาราว 2 ถึง 3 สัปดาห์ เมื่อความนิยมที่มีต่อผลงานเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น ลูกค้าต่างบอกว่า บางครั้งต้องรอนานถึง 4 เดือน จึงจะได้รับสินค้าที่พวกเขาสั่งเอาไว้
การเปลี่ยนของเก่าให้กลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่า ยังสอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์ของโลกปัจจุบันโดยไม่ต้องสงสัย มีสื่อมวชนต่างชาติรายงานเรื่องราวของกลุ่ม Sashiko Gals และผลงานสร้างสรรค์ของพวกเธอ นอกจากนี้โครงการ Sashiko Gals ยังดึงดูดความสนใจจากแฟนๆ ทั่วโลก มีบางคนบอกว่ารู้สึกเพลิดเพลินกับผลงานรองเท้าเหล่านี้เหมือนการชื่นชมผลงานศิลปะ
“แน่นอนครับ พวกเราต่างมีความสุขที่มีคนสวมใส่พวกมัน” ฟูจิวาระกล่าว