เว็บไซต์ Our World in Data นำเสนอการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลก โดยใช้ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติใน World Population Prospects (2024) พบว่า จำนวนประชากรโลกที่เป็นเด็กได้เลยจุดสูงสุดมาแล้ว

ในขณะที่ประชากรโลกเพิ่มขึ้นทุกปีจาก 5.42 พันล้านในปี 1991 เป็น 8.09 พันล้านคนในปี 2023 แต่จำนวนประชากรโลกที่เป็นเด็กกลับลดลงหลังปี 1991 และค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นอีกครั้งหลังปี 1999 จนมาถึงจุดสูงสุดในปี 2017

หลังปี 1991 ประชากรเด็กทั่วโลกค่อยๆ ลดลงจาก 650.73 ล้านคน มาอยู่ที่ 625.63 ล้านคนในปี 1999 จากนั้นก็ค่อยๆ กลับมาเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในปี 2017 ที่ 697.93 ล้านคน และลดจำนวนลงอีกหลังจากนั้น โดยอินเดียมีประชากรเด็กมากที่สุดในโลกนับจากปี 1992 เป็นต้นมา ตามมาด้วยจีน และปากีสถาน ขณะที่ไนจีเรีย จำนวนของประชากรเด็กขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ตั้งแต่ปี 2005

องค์การสหประชาชาติประมาณการณ์จากปี 1991 ถึง 2023 พบว่า จำนวนประชากรเด็กทั่วโลกที่อายุต่ำกว่า 1 ปี และ 5 ปีมีจำนวนมากสุดในปี 2017 โดยมีเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี 140.66 ล้านคน และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่ 697.93 ล้านคน ขณะที่ประชากรโลกอยู่ที่ 7.65 พันล้านคน ประชากรเด็กคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.12 โดยในปีนั้นประเทศไทยมีประชากรเด็กช่วงอายุนี้อยู่ที่ 3.76 ล้านคน

ที่มา: Our World in Data

ขณะที่ประชากรโลกอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งจะเติบโตเป็นวัยแรงงานอยู่ในจุดสูงสุดในปี 2021 ที่ 2.04 พันล้านคน และประชากรโลกอายุต่ำว่า 25 ปีซึ่งเริ่มเข้าสู่วัยทำงานแล้ว สูงสุดในปี 2022 ที่ 3.28 พันล้านคน

ในปี 2023 โลกมีประชากรโลก 8.09 พันล้านคน จำนวนประชากรเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีอยู่ที่ 654.03 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.1 โดยประเทศที่มีประชากรเด็กมากที่สุด คือ อินเดีย 114.66 ล้านคน รองลงมา คือ จีน 58.04 ล้านคน ขณะที่ไทยอยู่ที่ 3.10 ล้านคน เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราการเกิดต่ำอยู่ที่ 1.36 และ 4.14 ล้านคนตามลำดับ

องค์การสหประชาชาติชี้ว่า การที่ประชากรเด็กเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด หรือ “peak child” เป็นสัญญาณว่า ประชากรโลกได้เติบโตมาจนถึงจุดสูงสุดแล้ว และคาดว่า ประชากรโลกจะเริ่มลดลงก่อนถึงสิ้นสุดศตวรรษที่ 21

อ้างอิง
The world has passed “peak child”
Population of children under the age of 5, 1991 to 2023