การศึกษาถึงนิสัยการใช้เงินของคนวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักร พบว่า มีคนวัยผู้ใหญ่จำนวนที่มากที่ยังคงพึ่งพาเงินจาก “ธนาคารพ่อแม่” หรือขอช่วยเหลือด้านการเงินจากพ่อแม่ในยามที่จำเป็น
การสำรวจคนวัยผู้ใหญ่ทั่วสหราชอาณาจักรจำนวน 2,000 คน โดย 3Gem บริษัทวิจัยด้านการตลาด พบว่า ร้อยละ 55 ของผู้ตอบแบบสำรวจที่อายุ 18 ถึง 24 ปี มีความจำเป็นต้องขอการสนับสนุนด้านการเงินจากพ่อแม่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจระบุว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเนื่องจากคนวัยนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ และเป็นกลุ่มที่อาจยังไม่ได้ทำงานเต็มเวลา
แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจจากการสำรวจ คือ การพบว่า คนวัยผู้ใหญ่มากกว่าร้อยละ 33 ที่อายุระหว่าง 35 ถึง 44 ปี ยังคงต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากพ่อแม่ และร้อยละ 21 ของคนอายุ 45 ถึง 54 ปียังคงต้องการความช่วยเหลือด้านการเงินจากพ่อแม่เช่นกัน
การสำรวจพบว่า คนวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรถอนเงินจากธนาคารพ่อแม่ เฉลี่ยคนละ 773 ปอนด์ หรือตกราว 34,000 บาท ขณะที่ 1 ใน 5 ของคนที่เป็นพ่อแม่ไม่ได้คาดว่าจะต้องช่วยจ่ายหนี้สินให้กับลูกๆ
สำหรับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ต้องการความช่วยเหลือจากพ่อแม่ เช่น การจัดงานแต่งงาน และการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเป็นเรื่องปรกติ แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายรายวันก้อนเล็กๆ ที่ผู้ตอบแบบสำรวจอ้างว่า จำเป็นต้องให้คนในครอบครัวช่วยแบ่งเบา เช่น การซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และการชำระใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟต่างๆ
การสำรวจพบว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการจัดงานแต่งงานมาเป็นอันดับต้นๆ ร้อยละ 18 ของคนวัยผู้ใหญ่บอกว่า จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ และในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันนี้ต้องการเงินสำหรับซื้อของใช้ประจำวันและจ่ายค่าเช่าที่พัก
ขณะที่ร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยและเงินมัดจำค่าบ้าน ร้อยละ 15 เป็นค่าเช่าหรือจ่ายเงินจำนองบ้าน ร้อยละ 13 เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการกินอาหารนอกบ้าน ร้อยละ 12 เป็นการชำระหนี้สาธารณูปโภคต่างๆ และค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยววันหยุด รวมถึงการซ่อมและรีโนเวทบ้าน
โฆษกของธนาคารพาณิชย์ NatWest เสนอว่า ควรใช้เครื่องมือการออมเงินหรือรับคำแนะนำเรื่องการจัดการการเงินส่วนบุคคล จะช่วย “ทำให้คนวัยผู้ใหญ่ที่อายุน้อยจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดการพึ่งพาเงินจากพ่อแม่”
“น่ามหัศจรรย์ที่ว่า พ่อแม่จำนวนมากยังคงช่วยเรื่องเงินให้กับลูกๆ ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ ครอบครัวจะต้องมีการพูดกันอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องการเงิน ว่าเป็นการให้ยืมหรือให้เป็นของขวัญ การสื่อสารให้ชัดเจนจะช่วยไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดภายหลัง และทำให้มั่นใจว่าทุกคนเข้าใจตรงกัน” โฆษกของธนาคารพาณิชย์ NatWest กล่าว
ที่มา
A third of 35-44 year olds needed help from ‘Bank of Mum and Dad’ last year