เมืองเล็กหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา จูงใจให้คนต่างถิ่นย้ายเข้ามาอยู่ โดยเสนอมอบเงินสดและแพคเกจต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและการเริ่มชีวิตใหม่ ตามโครงการเพิ่มประชากรและเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น
กระแสชาวอเมริกันย้ายออกจากเมืองใหญ่ เริ่มต้นในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด การทำงานจากระยะไกลทำให้คนจำนวนมากโดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่มสาวพากันอพยพออกจากเมืองใหญ่ไปอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขา หรือเมืองเล็กๆ ตามชายฝั่ง ในปี 2023 มีประชากรราว 2.9 แสนคนที่ย้ายออกจากเมืองไปอยู่ในชนบท
ช่วงปี 2021 ถึง 2022 มีประชากรย้ายออกจากรัฐแคลิฟอร์เนียเกือบ 350,000 คน ขณะที่เมืองนิวยอร์ก มีคนย้ายออกราว 80,000 คน จากสาเหตุค่าครองชีพที่แพงเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับหลายเมืองในรัฐที่ห่างไกลซึ่งค่าครองชีพถูกกว่ามาก และต้องการเพิ่มจำนวนประชากร เพื่อกระตุ้นความเติบโตให้กับเศรษฐกิจของท้องถิ่น
หลายเมืองที่ต้องการดึงดูดประชากรรายใหม่ให้เข้ามาอยู่อาศัย ใช้วิธีมอบเงินเพื่อจูงใจซึ่งมีตั้งแต่ระดับหลักพันเหรียญไปจนกระทั่งมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ เช่น เมืองโคลัมบัส รัฐจอร์เจีย ซึ่งมีประชากรเพียง 200,000 คน พร้อมจ่ายให้ผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่รายละ 5,000 ดอลลาร์, เมืองลินคอร์นเคาน์ตี้ รัฐแคนซัส มีประชากรไม่ถึง 3,000 คน เสนอมอบเงินให้ผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ 4,500 ดอลลาร์ พร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมูลค่า 500 ดอลลาร์ การเป็นสมาชิกฟิตเนส และไข่สด 1 ตะกร้าทุกเดือน, มิสซิสซิปปี้เคาน์ตี้ รัฐอาคันซอ เสนอให้เงิน 50,000 ดอลลาร์กับผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มาสร้างบ้าน หรือรีโนเวทบ้านใหม่, เมืองนิวตัน รัฐไอโอวา มอบเงิน 10,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับเมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา และที่เวสต์เวอร์จิเนีย
แต่ทั้งนี้ ในแต่ละเมืองจะมีเงื่อนไขในการคัดกรองคนที่มีคุณสมบัติที่จะย้ายเข้ามาอยู่ เช่น ต้องเป็นคนที่มีการจ้างงานเต็มเวลาและสามารถทำงานจากระยะไกลได้ ต้องมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่าที่ทางเมืองกำหนด ขณะที่บางเมืองกำหนดระยะเวลาที่การอยู่อาศัยต้องไม่ต่ำกว่า 1 ปีขึ้นไป เช่น
เมืองโคลัมบัส รัฐจอร์เจีย คนที่จะเข้ามาอยู่ต้องเป็นคนที่มีการจ้างงานเต็มเวลาและสามารถทำงานจากระยะไกลได้ และมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 75,000 ดอลลาร์ และต้องอาศัยอยู่ที่เมืองโคลัมบัสเป็นหลัก
เมืองลินคอร์นเคาน์ตี้ รัฐแคนซัส ข้อกำหนดว่า ผู้ที่จะย้ายเข้ามาต้องทำงานจากระยะไกลได้ และมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ และต้องอาศัยอยู่ที่ลินคอร์นเคาน์ตี้เป็นเวลา 1 ปีขึ้นไป และหากคู่สมรสหรือคู่ชีวิตได้งานทำที่ลินคอร์นเคาน์ตี้ ทางเมืองจะจ่ายเงินเพิ่มให้อีก 5,000 ดอลลาร์
มิสซิสซิปปี้เคาน์ตี้ รัฐอาคันซอ กำหนดว่า ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ต้องเป็นพนักงานบริษัท และยินดีที่จะอยู่ที่มิสซิสซิปปี้เคาน์ตี้เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ขณะที่เมืองนิวตัน รัฐไอโอวา มีเงื่อนไขว่า ผู้ที่จะย้ายเข้าต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 240,000 ดอลลาร์ แต่ไม่กำหนดระยะเวลาที่ต้องพักอาศัยอยู่ในเมือง
เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา กำหนดว่า ผู้ที่จะย้ายเข้ามาอยู่ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่ได้อยู่ในรัฐโอกลาโฮมา ต้องมีรายได้ที่แน่นอนและสามารถทำงานจากระยะไกลได้ และจะต้องอาศัยอยู่ในเมืองทัลซาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
นอกจาก การมอบเงินแล้ว ยังมอบสิทธิพิเศษอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและใช้ชีวิตของผู้เข้ามาอยู่ใหม่ เช่น การใช้พื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซฟรีสำหรับนั่งทำงาน การใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงฟรี กระทั่งการเป็นสมาชิกยิมหรือฟิตเนส การเช่าใช้อุปกรณ์แคมปิ้งต่างๆ หรืออุปกรณ์เพื่อการสันทนาการเอาท์ดอร์โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เช่น ล่องแก่ง หรือซิปไลน์ระหว่างยอดเขา หรือมอบแพคเกจของขวัญจากร้านค้าและธุรกิจในชุมชนมูลค่าหลักพันดอลลาร์
ในบางเมือง เช่น เมืองทัลซา ยังมอบค่าเดินทางจำนวน 500 ดอลลาร์ และอีก 150 ดอลลาร์ สำหรับเป็นค่าที่พักแอร์บีเอ็นบีสำหรับครอบครัวในช่วงระหว่างการย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วย
อ้างอิง
7 cities that pay people to move there, including one that offers up to $10,000 in cash to new residents
Americans Still Moving Out of Bigger Cities at Higher Rate Than Pre-Pandemic
Why young people continue to flee big cities even as pandemic has faded