Bookbanks องค์กรการกุศลน้องใหม่ในสหราชอาณาจักร ผนึกกำลังกับธนาคารอาหาร เพื่อให้บริการหนังสือกับประชาชนทั่วไปที่เข้าไม่ถึงหนังสือ
แม้หนังสือจะเป็นแหล่งความรู้สำคัญที่บรรจุเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ไว้มากมายมาตั้งแต่อดีต และสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของหลายคน แต่ทุกวันนี้ ปัญหาการเงินของหลายครอบครัว ทำให้การเป็นเจ้าของหนังสือสักเล่มกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อเงินทองที่จะจับจ่ายซื้ออาหารยังมีไม่พอ การจะซื้อหนังสือมาอ่านจึงกลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มากขึ้น
เอมิลี่ รอดส์ นักเขียนในลอนดอน มองเห็นปัญหาดังกล่าวจึงก่อตั้ง Bookbanks ขึ้น เป็นธนาคารหนังสือที่มีแนวคิดการมอบหนังสือเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่มาใช้บริการธนาคารอาหารในท้องถิ่นของเธอ โดยความคิดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากเอมิลี่เข้าไปเป็นอาสาสมัครที่ธนาคารอาหารในชุมชนที่เธออยู่
เอมิลี่สังเกตเห็นว่า คนที่เข้ามาใช้บริการธนาคารอาหารมักมีความรู้สึกละอายใจและรู้สึกต่ำต้อย เธอจึงอยากเปลี่ยนบรรยากาศเหล่านั้น ให้กลายเป็นความรู้สึกถึงความหวังและการสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งเธอตระหนักได้ว่า หนังสือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนได้อย่างแท้จริง
“หลายคนคิดว่าหนังสือเป็นเรื่องของปัจเจก คุณแค่ไปซื้อหนังสือแล้วก็มานั่งอ่าน แต่จริงๆ แล้วหนังสือยังมีอีกด้านที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนได้ ข้อดีอย่างหนึ่งของร้านหนังสือและห้องสมุดก็คือ มันเป็นพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ เป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุย และฉันก็อยากจะนำสิ่งเหล่านั้นมาไว้ที่ธนาคารอาหาร โดยที่ไม่ควรมีใครต้องเลือกว่า อยากอ่านหนังสือหรืออยากกินอาหารเพื่ออิ่มท้อง” เอมิลี่ กล่าว
ธนาคารหนังสือของเอมิลี่เริ่มต้นจากโต๊ะตัวเล็กๆ ที่มีหนังสือไม่กี่เล่มวางไว้ให้คนที่สนใจมาเลือกหยิบกลับไปอ่าน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็แสนวิเศษ เพราะผู้คนต่างแห่กันมาที่โต๊ะและหยิบยืมหนังสือที่พวกเขาสนใจ พร้อมๆ กับมีบทสนทนามากมาย ที่เริ่มต้นจากหนังสือ เอมิลี่เล่าว่า วันแรกที่เปิดธนาคารหนังสือ เธอแจกจ่ายหนังสือไปได้ทั้งหมด 50 เล่ม
“สำหรับผมแล้ว หนังสือเป็นเหมือนป้ายบอกทางให้คิดเพื่อตัวเอง หนังสือให้พื้นที่กับผมเพื่อจินตนาการ เผชิญความโกรธและความกลัวภายในตัวเอง นอกจากนั้น หนังสือยังให้ความหวัง และทำให้ผมเข้าใจว่า ไม่ได้อยู่เพียงลำพัง” เดวิด หนึ่งในผู้ใช้บริการธนาคารหนังสือกล่าว
ผู้ใช้บริการธนาคารหนังสือคนอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วยกับเดวิด อย่างเช่น ยูซุฟ
“ผมมักจะเอาหนังสือกลับไปอ่านกับลูกชายที่บ้าน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเลย ถึงจะไม่มีเงิน แต่เราก็มีหนังสือ เพราะหนังสือคือความรู้ และความรู้เป็นสิ่งที่ดี” ยูซุฟกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมองว่า ห้องสมุดสาธารณะก็ทำหน้าที่ให้ยืมหนังสือกับประชาชนทั่วไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่เอมิลี่กลับไม่คิดเช่นนั้น เธอบอกว่า การกีดกันทางสังคมและการไร้ที่อยู่อาศัยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอีกมากมายไม่สามารถเข้าถึงห้องสมุดได้ และธนาคารหนังสือให้ความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนั้นๆ มากกว่าการยืมหนังสือ
ทั้งนี้ เอมิลี่ตั้งเป้าที่จะขยายการทำงานของธนาคารหนังสือของเธอไปยังชุมชนอื่นๆ ทั่วสหราชอาณาจักร
“ก้าวต่อไปจากการอ่าน ก็คือการเขียน เพราะผู้คนมีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่าให้คนอื่นฟัง และฉันก็คิดว่าการเขียนเรื่องราวเหล่านั้นจะมีพลัง น่าทึ่ง และยอดเยี่ยมมาก” เอมิลี่กล่าว
อ้างอิง
เว็บไซต์ Bookbanks
‘Nobody should have to choose whether to feed or read’