Skip to main content

 

Libertus Machinus
 


ถ้าจะพูดถึงประเทศที่วิกฤติประชากรเข้าขั้น "สิ้นหวัง" ที่สุดในโลก คงไม่มีประเทศไหนเท่าเกาหลีใต้ เพราะแม้ประเทศนี้จะรวยเอาๆ จนรายได้ต่อหัวเลยญี่ปุ่นไปแล้ว แต่อัตราการมีลูกหรือ "อัตราเจริญพันธุ์" ของเกาหลีใต้กลับตกลงเรื่อยๆ จนล่าสุด ค่านี้ลงต่ำกว่า 1 ไปเรียบร้อย (ในปี 2023 ตัวเลขอยู่ที่ 0.72) และเท่าที่เคยมีบันทึกเอาไว้ น่าจะไม่มีผู้หญิงในสังคมใดที่ีมีลูกกันน้อยกว่านี้

การพูดถึงที่มาของปัญหา "คนเกาหลีไม่มีลูก" เป็นสิ่งที่ที่มีการพูดคุยกันที่อื่นมาเยอะแล้ว และแนวทางการแก้ปัญหาของเกาหลีใต้ก็เรียกว่าลองมาแล้วทุกทาง ไม่มีอะไรเวิร์ค เช่นเดียวกับรัฐบาลทุกที่ในโลก ที่เริ่มตระหนักและยอมรับมากขึ้นๆ ว่า ไม่มีนโยบายรัฐใดในโลกนี้ ที่จะพลิกให้แนวโน้มของประชาชนที่มีลูกน้อยลงเรื่อยๆ สามารถกลับมามีลูกมากขึ้นได้

แต่แล้วเกาหลีใต้ก็มีความหวังจากปัจจัยหนึ่ง ซึ่งจะบอกว่าเป็นปัจจัยเฉพาะของเกาหลีใต้ก็ได้  นั่นคือ ความหวังว่าคน "เกาหลีอเมริกัน" จะเดินทางกลับมาเกาหลีใต้

เกาหลีใต้ก็เหมือนกับชาติเอเชียตะวันออกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือจีน ที่ถึงประชากรน้อยลงก็ให้ "สัญชาติ" กับชาวต่างชาติยาก แต่เกาหลีใต้นั้นมี "อาวุธลับ" ที่คล้ายกับจีน คือ สองชาตินี้มีพลเมืองที่อาศัยอยู่ในประเทศอื่นๆ ไม่น้อย และการชวนให้คนเหล่านี้กลับมาสู่มาตุภูมิ เพื่อ "กระตุ้นเศรษฐกิจ" ก็เป็นสิ่งที่พึงประสงค์กว่าการให้สัญชาติชาวต่างชาติที่อยากเป็นพลเมืองแบบเดียวกัน


ระลอกคลื่นผู้อพยพชาวเกาหลีสู่แผ่นดินอเมริกา

 

คนเกาหลีโพ้นทะเลอยู่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเยอะสุด ซึ่งถ้าอธิบายในทางประวัติศาสตร์ มีการอพยพใหญ่ๆ สามระลอก ระลอกแรก คือ ไปใช้แรงงานกับทางแรงงานจีน ซึ่งถูกแบนภายใต้กฎหมาย Chinese Exclusion Act ในปี 1882 ซึ่งการอพยพรอบนี้ไปจบที่ Oriental Exclusion Act ในปี 1924 ที่อเมริกาแบนการอพยพของแรงงานจากเอเชียทั้งหมด

ระลอกที่สอง คือที่อพยพในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งอเมริกาแก้กฎหมายเปิดช่องให้คนเกาหลีลี้ภัยสงครามไปอเมริกาได้ ในบรรดาชาวเกาลีอพยพเหล่านี้ มีไม่น้อยเป็นผู้หญิงเกาหลีที่เป็นภรรยาของทหารอเมริกัน ไปจนถึงเด็กเกาหลีกำพร้า ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่กำพร้าจากสงครามเกาหลี และสุดท้ายครอบครัวอเมริกันรับไปเลี้ยง

ระลอกสุดท้าย คือหลังปี 1965 ที่อเมริกาแก้กฎหมายกีดกันการอพยพของคนเอเชียอย่างสมบูรณ์ และเปิดโอกาสให้คนเอเชียอพยพไปทำงานในอเมริกาได้เต็มที่ ซึ่งในช่วงนี้เกาหลีใต้ทั้ง "ยากจน" และเป็น "เผด็จการ" คนเกาหลีจำนวนไม่น้อยที่มีฐานะและการศึกษาก็เลยอยากไปหา "ชีวิตที่ดีกว่า" ในสหรัฐอเมริกา

เนื่องจากมีการอพยพไปหลายระลอกมาก คนเกาหลีในอเมริกาเลยสร้างชุมชนที่แนบแน่น และก็ว่ากันว่าเป็นชุมชนที่ "ใหญ่" ระดับชุมชนคนเม็กซิโกและคนฟิลิปปินส์เลยทีเดียว โดยในปัจจุบัน มีการประเมินกันว่ามีคนเกาหลีโพ้นทะเลในสหรัฐอเมริการาวๆ 2 ล้านคนเลยทีเดียว


การกลับบ้านที่เหมาะเจาะ เพราะเป็นแรงงานทักษะที่เกาหลีใต้ที่ต้องการ และหนีจากการเหยียดเอเชีย

 

คนเกาหลีอเมริกัน คือ คนกลุ่มที่เกาหลีใต้ต้องการเพราะคนพวกนี้ มีทั้งทักษะแรงงานและกำลังบริโภคพร้อม คือ เข้ามาจะช่วยเศรษฐกิจเกาหลีเลย และจริงๆ คือเกาหลีใต้เปิดทางให้คนเหล่านี้กลับประเทศมาตั้งแต่ปี 1999 แล้ว แต่ช่วงหลังมานี้คนเกาหลีอเมริกันกลับเกาหลีเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะสังคมอเมริกา "เหยียดเชื้อชาติ" มากขึ้นๆ

สำหรับคนเกาหลีที่ไปอยู่อเมริกานานๆ สำนึกที่ว่าตัวเองเป็น "พลเมืองชั้นสอง" นั้นมีมาตลอด ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันที่พวกเค้าถูกกันออกจากพื้นที่ของ "คนขาว" เป็นปกติ หรือถ้าคนที่อพยพไปในแคลิฟอร์เนีย 30 ปีขึ้นไป ก็จะจดจำความซวยในช่วง "จลาจลลอสแองเจลิส" ในปี 1992 ที่เกิดเหตุทำลายและปล้นร้านค้าจำนวนมาก โดยร้านราวครึ่งหนึ่งที่โดนปล้นเป็นร้านของคนเกาหลี และตำรวจก็ไม่ทำอะไรเลย คนเกาหลีต้อง "จับปืนขึ้นสู้" เพื่อป้องกันทรัพย์สินตัวเอง และเกิดตำนานที่เป็นมีมอย่าง "Rooftop Korean”  ซึ่งจุดนี้ทำให้คนเกาหลีตระหนักดีว่ามีปัญหาอะไร พวกเค้าก็ต้อง "พึ่งตัวเอง" รัฐบาลสหรัฐนั้นพึ่งพาไม่ได้

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ช่วงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มาจนถึงการระบาดของโควิด-19 ทุกอย่างแย่ลงมาก เกิดกระแสต่อต้านคนจีนอย่างหนัก และพวก "คนอเมริกัน" ไม่ว่าจะคนขาวหรือคนดำไม่สามารถแยกแยะคนเอเชียได้ และจริงๆ ถ้าตามข่าว คนเฒ่าคนแก่เอเชีย โดนทำร้ายตามท้องถนนก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ และนี่ก็ยังไม่นับพวกภัยรายวันที่เกิดขึ้นกับทุกเชื้อชาติแบบ "เหตุกราดยิง" อีก

พูดอีกแบบ ทุกวันนี้สหรัฐอเมริกา "ไม่ปลอดภัย" อีกแล้ว และคนจำนวนไม่น้อย (แม้แต่คนชาวอเมริกันเอง) ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากอยู่ในประเทศเสี่ยงภัยนี้อีกแล้ว ถ้ามีทางเลือกอื่น

สำหรับคนเกาหลีอเมริกัน เอาจริงๆ กระแสการอพยพมีมาพักใหญ่แล้ว ถ้าดูตัวเลข การ "อพยพกลับเกาหลี" ระลอกแรกเกิดหลังปี 2008 ที่อเมริกาเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่มีงานทำ คนรุ่นใหม่เกาหลีเลยกลับประเทศ ซึ่งการกลับตอนนั้น คือ จังหวะเหมาะมาก เพราะเกาหลีกำลังทะยานร่ำรวยและก้าวเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมพอดี ซึ่งคนรุ่นพวกนี้พอกลับไปเจอเกาหลีใต้ยุคใหม่ที่เจริญไฮเทคไม่แพ้อเมริกา ก็ไม่แปลกที่จะมีการชวนเพื่อนกลับด้วย และก็เรียกว่าเกาหลีใต้ช่วงนี้ก็อาจให้ "โอกาส" มากกว่าอเมริกาจริงๆ เพราะไอดอล K-Pop ในช่วงแรกๆ หลายคนก็คือคนเกาหลีที่กลับมาจากอเมริกา เช่น Tiffany และ Sunny ของ Girls' Generation ซึ่งคนเหล่านี้ถ้าอยู่ในอเมริกาก็ยากจะแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมบันเทิงได้

ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ที่เลือกกลับเกาหลี คนเกาหลีอเมริกันรุ่นเกษียณเอง ก็มองกว่าการกลับไปบ้านนอกเกาหลีเป็นการเกษียณที่ดี เพราะก็ตามประสาคนอเมริกัน เงินเกษียณมันไม่พออยู่ในอเมริกาอยู่แล้ว คนพวกนี้ต้องหาประเทศที่ค่าครองชีพต่ำกว่าเพื่อให้เงินพอใช้ และสำหรับคนมี "บ้านเกิด" การ "กลับบ้านเกิด" ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย โดยเฉพาะ บ้านเกิดที่ทุกวันนี้เจริญทัดเทียมกับสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว


หนีจากการถูกเหยียดในอเมริกา มาถูกเหยียดจากคนเกาหลีด้วยกัน

 

แต่ถามว่าคนเกาหลีอเมริกันกลับมาเกาหลีแล้วมีปัญหาหรือไม่? เค้าจะบอกว่าแรกๆ กลับจะไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจไปหมด แต่อยู่ไปนานๆ จะมีปัญหา เช่น ถ้าไม่ใช้ภาษาเกาหลีในที่สาธารณะก็จะโดนคนเกาหลีตำหนิเอาได้ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นในรถไฟใต้ดิน หรือกระทั่งหมอในโรงพยาบาล และนั่นก็ยังไม่รวมถึงปัญหาการสร้างความสัมพันธ์กับคนเกาหลีท้องถิ่นเอง เช่น ผู้หญิงเกาหลีอเมริกันก็จะรู้สึกว่าผู้ชายเกาหลีเหยียดผู้หญิง ส่วนผู้ชายเกาหลีอเมริกันที่ไม่มีหน้าที่การงานที่ดีในเกาหลี ก็อย่าหวังจะไปจีบผู้หญิงเกาหลีโปรไฟล์ดีๆ เพราะพวกเธอมักจะไม่สน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี เกาหลีก็ไม่ย่อท้อ ปัจจุบันเกาหลีไม่ได้แค่กระตุ้นให้พวกเกาหลีอเมริกันกลับประเทศเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้ชาวเกาหลีที่อพยพไปอยู่ในจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งทุกวันนี้อาศัยอยู่ในเอเชียกลางกลับประเทศด้วย โดยมีกฏหมายจูงใจให้คนเหล่านี้พร้อมครอบครัวกลับมาอยู่เกาหลีได้มาตั้งแต่ปี 2014

คนกลุ่มนี้เรียกว่า "โคเรียวอิน" ซึ่งส่วนใหญ่จะพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เลย และลูกๆ ของคนกลุ่มนี้จะเรียนในโรงเรียนเฉพาะที่สอนให้เด็กเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมเกาหลี แต่เป็นภาษารัสเซียอะไรแบบนั้นเลย

เรื่องทั้งหมดนี้คนอาจไม่เห็นเท่าไร แต่ในภาพของสังคมไฮเทคที่ "ซอฟพาวเวอร์" สูงลิบ อีกด้านเป็นสังคมที่ยิ่งกว่า "สิ้นหวัง" แล้วด้านประชากร และเกาหลีใต้ก็ทำทุกทางแบบทุกทางจริงๆ ที่จะทำให้คนที่มีเชื้อสายเกาหลีกลับมาอยู่เกาหลี เพราะนั่นเป็นความหวังที่จับต้องได้ที่สุดในการเพิ่ม "ชาวเกาหลี" ในประเทศแล้วในปัจจุบัน

 


อ้างอิง
They left South Korea for the American Dream. Now their children are moving back
History of Korean Immigration to America, from 1903 to Present 
Can families returning after centuries solve S Korea's population crisis?
 

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน