Skip to main content

เครือข่ายศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย (ศวป.) เรื่องขอให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ปกป้องเสรีภาพทางวิชาการและให้ความช่วยเหลือนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม

ตามที่มีผู้แจ้งความให้ดำเนินคดีตามความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 กับนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ 2 คน ว่าการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ธง 2522 ทั้งยังเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม.112, 1126 และ 215 นั้น

เครือข่ายศิลปวัฒนธรรมเพื่อประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดังนี้ 

1. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยและคณะวิจิตรศิลป์ มีหน้าที่ในการจัดการศึกษา โดยคำนึงถึงเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่เสรีและเคารพซึ่งหลากหลาย การที่ผู้บริหารปล่อยปละละเลยให้มีการคุกคามการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกของนักศึกษาภายในสถานศึกษานั้น ต้องเป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะต้องออกมาปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการแสดงออกทางวิชาการ ซึ่งในฐานะนักศึกษาศิลปะที่ได้แสดงออกผ่านงานศิลปะต้องได้รับการคุ้มครอง และปกป้องอย่างถึงที่สุด อย่างน้อยในฐานะศิษย์กับอาจารย์ ไม่ใช่ผลักไล่ไสส่งนักศึกษาออกจากภาระของความเป็นครูอาจารย์ 

การเพิกเฉยที่จะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในทางวิชาการดังกล่าว ย่อมกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยที่มีพันธะจะต้องปกป้องเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษาและนักวิชาการ อันเป็นตัวบ่งชี้หนึ่งของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก

แน่นอนว่า หากผู้บริหารไม่ใส่ใจและรับผิดชอบต่อนักศึกษาของตน ย่อมเกิดผลกระทบต่อตัวบ่งชี้ด้านเสรีภาพทางวิชาการอย่างชัดเจน

2.ศวป. ขอเรียกร้องต่อบุคคลในกระบวนการยุติธรรมขอให้ปฏิบัติหน้าที่ในคดีดังกล่าวโดยเคารพสิทธิพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา ตราบเท่าที่ยังไม่ถูกตัดสิน ผู้ถูกกล่าวหาย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์และได้รับการประกันตัวออกมาระหว่างการต่อสู้คดี

เครือข่าย ศวป. ซึ่งเป็นเครือข่ายของศิลปิน นักกิจกรรมและผู้ปฏิบัติงานทางวัฒนธรรมที่มีเครือข่ายในเวทีนานาชาติ เราจะเฝ้าจับตาการทำงานของผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และผู้มีส่วนในกระบวนการยุติธรรมในคดีที่มีการกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมนี้อย่างใกล้ชิด
.
ในวันนี้ (11 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วิธญา คลังนิล และยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 2 คน ที่ถูกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำความผิดใน พ.ร.บ.ธง และ ม.112 ตามที่ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี จากกรณีที่กลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมแสดงผลงานศิลปะบริเวณหน้าตึกยุทธศาสตร์ในมหาวิทยาลัยวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีการเขียนข้อความลงบนธงชาติไทย ช่วงเดือน มี.ค.64 ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

ทั้งนี้มีกลุ่มอาจารย์และผู้สนับสนุนจำนวนมากที่ร่วมให้กำลังใจ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น ได้แก่ ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ,ชำนาญ จันทร์เรือง อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และรองศาสตราจารย์สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยในช่วงก่อนที่จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา วิธญา คลังนิล อายุ 23 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 2 นักศึกษาที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ได้จัดแสดงผลงานศิลปะอีกครั้งที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจด้วยการถอดเสื้อออกเอาโพกหัวและไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย นั่งอยู่ในวงกลมที่นำกระดาษหนังสือพิมพ์มาวางล้อมรอบตัว พร้อมกับใช้มีดโกนกรีดที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองเป็นเลข '112' อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ สามารถเข้าระงับเหตุได้ทัน ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนพยายามขัดขวางตำรวจไม่ให้เข้าช่วย อ้างว่าเป็นการเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนักศึกษาเข้าไปภายในสถานีตำรวจเพื่อปฐมพยาบาลและดำเนินการตามกระบวนการในการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ขณะที่ยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาอีก 1 คน และเจ้าของผลงานศิลปะธงชาติ ที่ถูกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวในครั้งนี้ เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลใจบ้างเกี่ยวกับการที่ถูกออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและต้องถูกดำเนินคดี รวมทั้งอาจไม่ได้รับการประกันตัวจนต้องถูกคุมขัง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าผลงานศิลปะที่ทำเกี่ยวกับธงชาติของตัวเองนั้น ไม่ได้กระทำผิดใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะเป็นเพียงการทำงานศิลปะเท่านั้น และวัตถุต่างๆ ล้วนไม่มีความหมายใดๆ นอกจากเป็นแถบสีที่นำมาจัดวางเรียงกัน ส่วน ม.112นั้น ตัวเองยังไม่รู้ตัวว่ากระทำผิดเมื่อใด
 

ขณะที่ ผศ.ดร.ทัศนัย เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางให้กำลังใจนักศึกษาทั้ง 2 คน และจะเข้าไปร่วมรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาด้วยในฐานะที่นักศึกษาไว้วางใจ ทั้งนี้หวังว่าตำรวจจะใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาดำเนินคดีอย่างถ้วนถี่ เพราะประเด็นนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงวงกว้างในสังคม พร้อมกันนี้ยังกระทบกับเสรีภาพและการทำงานศิลปะด้วย ซึ่งผู้คนในวงการศิลปะต่างเห็นว่าการนำธงมาใช้ทำงานศิลปะไม่ได้เป็นความผิดและไม่ผิด พ.ร.บ.ธง อีกทั้งศิลปะต้องมีเสรีภาพในการแสดงออกด้วย โดยไม่เชื่อว่าคนที่ทำงานศิลปะจะคิดร้ายกับบ้านเมือง นอกจากนี้กล่าวถึงนายศรีสุวรรณว่า มักร้องเรียนหรือแจ้งความไปเรื่อยโดยไม่มีข้อมูลหรือรู้จริงเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ

ด้าน พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า วันนี้นักศึกษาทั้ง 2 คนเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำความผิดใน พ.ร.บ.ธง และ ม.112 ตามที่ศรีสุวรรณ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยหลังจากที่แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะทำสำนวนส่งศาลเพื่อพิจารณาฝากขังต่อไปผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งหากศาลมีคำสั่งรับฝากขัง จะควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจแทนการนำตัวส่งเรือนจำ