Skip to main content

ยินดีต้อนรับสู่อนาคตของความตาย
 

ทำความรู้จัก ‘The Order of the Good Death’ องค์กรที่มุ่งมั่นขจัดอาการหวาดกลัวต่อ ‘ความตาย’ ด้วยการพยายามสร้างความเข้าใจว่า ‘ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ’ แต่ความวิตกกังวลต่อความตายในวัฒนธรรมสมัยใหม่ไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ 

สำหรับหลายคน การพูดถึงเรื่อง ‘ความตาย’ กลายเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะความตายเป็นความโศกเศร้าที่สุดของชีวิตมนุษย์ ผู้คนต่างพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะต่อสู้กับความตาย โดยทำทุกวิถีทางเพื่อเลื่อนเวลาตายของตัวเองออกไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจทำได้ด้วยการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย กินยา หรือการผ่าตัด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความตายจะเป็นผู้ชนะเสมอ

เพราะต้องการเปลี่ยนแปลงความคิดว่า เรื่องความตายคือ ‘สิ่งต้องห้าม’ เคทลิน ดักตี้ จึงก่อตั้งองค์กร The Order of the Good Death ขึ้น เพื่อทำงานขจัดความกลัวต่อความตาย ไม่ว่าจะเป็นความตายของตัวเองหรือคนที่รัก รวมไปถึงการรับมือกับความเศร้าโศกเสียใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย

แนวคิดดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นขณะที่ดักตี้ทำงานเป็นผู้จัดการงานศพในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และเธอเห็นว่าอุตสาหกรรมงานศพทำให้ครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวทางการเงินและทางอารมณ์ 

ดักตี้ตระหนักว่า การลุกขึ้นมาพูดเรื่อง “การปฏิรูปอุตสาหกรรมงานศพ” ไม่ใช่หัวข้อที่คนทั่วไปอยากให้การสนับสนุน และปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานศพก็จะถูกซุกซ่อนเอาไว้ใต้พรมต่อไป ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตก็ต้องก้มหน้ายอมรับค่าใช้จ่ายมหาศาลต่อการจัดงานศพ และพื้นที่ที่จะเสียใจหรือแสดงความเศร้าโศกก็มีอยู่อย่างจำกัด

ทว่าเธอตัดสินใจว่า ต้องมีใครสักคนลุกขึ้นมาทำอะไรกับอุตสาหกรรมนี้ และทำให้เรื่องของความตายถูกพูดถึงมากขึ้น เช่นเดียวกับสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความตาย และการจัดงานศพที่ไม่จำเป็นต้องมีเพียงรูปแบบเดียว

‘The Order of the Good Death’ ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดยเริ่มต้นสร้างและเสนอแนวทางการจัดงานศพ สมาชิกแต่ละคนขององค์กรล้วนแล้วแต่มีหน้าที่ของตัวเองในการสร้างความรับรู้ใหม่เกี่ยวกับความตาย เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานศพ นักวิชาการ และศิลปิน ที่ทำงานค้นหาวิธีการปรับเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปได้ในช่วงบั้นปลายชีวิต และคนทำงานแนวหน้าการจัดงานศพ ตั้งแต่นักออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ตาย ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาการใช้พลังงานที่ดึงมาจากโรงเผาศพ รวมไปถึงสถาปนิกที่ออกแบบวิธีการทำปุ๋ยหมักคนตายในพื้นที่เมือง

‘The Order of the Good Death’ มีสมาชิกมากกว่า 100 คนกระจายตัวอยู่ทั่วโลก และแต่ละคนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งผู้จัดการงานศพ ศิลปิน นักดนตรี นักวิชาการ และนักเขียน โดยทุกคนมีเป้าหมายเพื่อทำให้ผู้คนพูดถึงความตายมากขึ้น เช่นเดียวกับการเตรียมตัวสำหรับความตาย
 

“การยอมรับความตายเป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มันก็เหมือนกับสัตว์ประหลาดใต้เตียงที่น่ากลัว เพียงเพราะมันมืดมิดและส่งเสียงดัง แต่กลับไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับมัน” ดักตี้กล่าว


เมแกน โรเซนบลูม บรรณารักษ์ทางการแพทย์วัย 31 ปี และสมาชิกคนหนึ่งขององค์กร The Order of the Good Death ชี้ว่า การเผชิญหน้ากับความตายไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ซึ่งจะช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างรอบคอบมากขึ้น และใช้ชีวิตให้เต็มที่ยิ่งขึ้นในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ 
 


“คนทั่วไปพยายามทำให้ความตายอยู่ห่างไกลจากเรามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราไม่ได้เตรียมพร้อมเลยที่จะรับมือกับความตายที่จะเข้ามาในชีวิตเราเมื่อไรก็ได้ ความตายคือความลึกลับที่แสนยิ่งใหญ่ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันจึงน่ากลัว แต่การรู้จักที่จะเผชิญหน้าและโต้ตอบกับมัน ก็ทำให้ความตายมันน่ากลัวน้อยลงได้เหมือนกัน”


ปัจจุบัน ‘The Order of the Good Death’ มุ่งทำงานในหลายส่วน เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องความตายให้กับคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการออกกฎหมายที่ให้ตัวเลือกกับการตายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมถูกกฎหมาย การให้ทุนสำหรับการวิจัย และการอนุรักษ์สถานที่ฝังศพของคนผิวสี การสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรไม่แสดงหาผลกำไรที่ทำงานสร้างความเท่าเทียมเรื่องความตายในชุมชนชายขอบ การสร้างแหล่งข้อมูล และแนวทางในการแจ้งให้คนข้ามเพศรับรู้ถึงสิทธิในการตายของตัวเอง และการผลิตซีรีส์สารคดีบนแพลตฟอร์มออนไลน์เรื่อง Ask a Mortician ที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการตาย อุตสาหกรรมงานศพ และประวัติศาสตร์การตาย เป็นต้น

-----------