อานนท์ นำภา พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรหยุดเอเปก รวบรวมพยานหลักฐานจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่บริเวณถนนดินสอ มายื่นต่อคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอให้ตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่ในการใช้กำลังขัดขวางการชุมนุม ช่วงการประชุมเอเปคที่ผ่านมาจนเกิดเหตุความรุนแรงมีผู้บาดเจ็บและมีผู้ชุมนุมถูกจับกุมหลายราย จึงอยากให้กรรมาธิการ และพรรคร่วมฝ่ายค้านช่วยตรวจสอบ ทั้งข้อกฎหมายในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ รวมถึงหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
โดยบารมี ชัยรัตน์ ตัวแทนผู้ชุมนุม มองว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้แจ้งการชุมนุมตามกฏหมายแล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังขัดขวางไม่ให้เดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ด้านณัฐชา อินไชยบุญสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่อแววไปในความรุนแรง เป็นเพียงการออกมาเรียกร้องสิทธิเท่านั้น ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจรุนแรงเกินกว่าเหตุ ไม่มีมาตรการจากเบาไปหาหนัก ดังนั้นในวันที่ 24 พ.ย. ที่จะถึงนี้จะนำเรื่องนี้เข้าสู่วาระการพิจารณาของกรรมาธิการและจะเสนอเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ และในวันเดียวกันในเวลา 11.00 น. สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์จะนำหลักฐานมายื่นต่อคณะกรรมาธิการฯ ด้วย
ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีภาพปรากฏชัดมีการยั่วยุจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสถานการณ์บานปลาย มีการใช้กำลังทำให้มีผู้บาดเจ็บ พร้อมมองว่า รัฐบาลที่ดี ควรที่จะเปิดหูเปิดตารับฟังความเห็นจากประชาชน ไม่ใช่กดอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุม ซึ่งหลังจากนี้ ทางกรรมาธิการและพรรคฝ่ายค้าน ก็จะร่วมกันแสวงหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการกระทำที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงจากภาครัฐ