ซินหัว เปิดเผยว่า รายงานจากศูนย์เพื่อความก้าวหน้าของอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าสหรัฐฯ พบผลกระทบด้านสุขภาพรุนแรงจากการห้ามทำแท้งเพิ่มมากขึ้น หลังจากมีการวินิจฉัยคว่ำคำตัดสินคดีโร วี. เวด (Roe v. Wade) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
รัฐจำนวน 18 แห่ง ซึ่งมีหญิงวัยเจริญพันธุ์อาศัยอยู่กว่า 25 ล้านคน สั่งห้ามการเข้าถึงบริการทำแท้งบางส่วนหรือทั้งหมด พร้อมข้อยกเว้นพิเศษซึ่งแทบนำมาปฏิบัติจริงไม่ได้
นอกจากนั้นผู้คนหลายพันคนพบว่าการทำแท้งในกรณีจำเป็นนั้นเป็นไปไม่ได้ ขณะเรื่องราวน่าหวาดหวั่นจากบรรดารัฐที่ห้ามทำแท้ง สะท้อนถึงวิกฤตทางการแพทย์ซึ่งครอบคลุมเกือบครึ่งประเทศแล้วตอนนี้
รายงานเผยว่าวิกฤตการเข้าถึงการทำแท้งเกิดขึ้นควบคู่กับอีกหนึ่งหายนะด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ อย่างการเสียชีวิตของมารดา (maternal mortality) พร้อมชี้ว่าสหรัฐฯ มีอัตราการตายของหญิงผู้เป็นแม่มากที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยอัตราการเสียชีวิตของมารดาในผู้หญิงผิวดำนั้นสูงกว่ากลุ่มประชากรอื่นๆ
ด้านเหล่าแพทย์ทั่วสหรัฐฯ จำต้องใช้ความรู้การแพทย์ที่ฝึกอบรมมาและข้อบังคับด้านจริยธรรมวิชาชีพ เพื่อเดินหน้าทำงานท่ามกลางความไม่ชัดเจนของสิ่งที่กฎหมายอนุญาต