ราคาอาหารและค่าครองชีพช่วงหลังโควิดที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้รายจ่ายค่าอาหารของพนักงานบริษัทชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเมื่อพนักงานจำนวนมากกลับมาทำงานที่ออฟฟิศหลังการทำงานจากที่บ้านในช่วงโควิด ส่งผลให้หลายบริษัทให้ความสำคัญกับการปรับปรุงโรงอาหารให้ดีขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการให้กับพนักงาน โดยเพิ่มคุณภาพอาหารในโรงอาหารและขายในราคาถูก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับพนักงาน

โรงอาหารของบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ปรับตัวตามเสียงเรียกร้องของพนักงาน ด้วยการจัดเตรียมอาหารกลางวันที่ดีต่อสุขภาพในราคาประหยัด หลังจากราคาอาหารสูงขึ้นมาต่อเนื่องมาหลายปี ขณะที่โรงอาหารของบางบริษัทเปิดขายอาหารในช่วงมื้อค่ำ พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ เพื่อช่วยให้พนักงานที่กลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศหลังโควิด สนิทสนมและมีการสื่อสารกันมากขึ้น

คาเฟทีเรียของ ลอรีอัล บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ จัดเตรียมบุฟเฟต์สลัดที่มีผักสดมากกว่า 10 ชนิด พร้อมด้วยเครื่องเคียงหลายอย่าง รวมถึงเนื้อไก่ต้ม ผลไม้ และอาหารจานหลัก เช่น ข้าวต่างๆ พาสต้า ในราคาเพียง 550 เยน หรือราว 116 บาท

ผักสดและเนื้อไก่ที่คาเฟทีเรียของลอรีอัล ส่งตรงมากจากฟาร์ม 10 แห่งของเกษตรกรในจังหวัดชิบะ ในราคาที่ไม่แพง จึงทำให้ราคาอาหารที่ปรุงขายให้กับพนักงานไม่สูงจนเกินไป

บุฟเฟต์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องจากพนักงานที่บอกว่า ร้านอาหารย่านออฟฟิศแออัดไปด้วยผู้คน คิวยาวต้องรอนาน และมีเพียง 2-3 ร้านที่พวกเขาพอจะจ่ายไหว จึงอยากมีทางเลือกอื่นสำหรับอาหารมื้อกลางวัน ขณะที่พนักงานบางส่วนอยากให้โรงอาหารมีผักหลายๆ ชนิด และอาหารที่รสหลากหลาย

เช่นเดียวกับ Persol Holdings บริษัทให้บริการทางด้านทรัพยากรมนุษย์ ที่กลับมาเปิดบริการโรงอาหารอีกครั้ง หลังจากปิดไปนาน 5 ปีในช่วงการระบาดของโควิด โรงอาหารที่นี่จะเปิดขายมื้อค่ำด้วยสัปดาห์ละ 2 วัน โดยจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายเพื่อช่วยให้พนักงานใช้เวลาร่วมกันและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น

ขณะที่บริษัทยานยนต์อย่าง ซูซูกิ ก็มีการนำเมนูอาหารอินเดียในขายในโรงอาหารของบริษัท เพื่อรองรับจำนวนของพนักงานที่เป็นชาวอินเดียซึ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ถึงตอนนี้มีอาหารอินเดียมากถึง 13 เมนู นอกจากจะถูกปากพนักงานที่เป็นคนอินเดียแล้ว ยังเป็นที่ชื่นชอบของพนักงานชาวญี่ปุ่นด้วย

การสำรวจของบริษัท Recruit Co. ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2025ค่าอาหารกลางวันต่อมื้อของชาวญี่ปุ่นเฉลี่ยอยู่ที่ 1,250 เยน หรือตกราว 260 บาท โดยเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และเมื่อเทียบกับปี 2020 ที่มีค่าอาหารกลางวันเฉลี่ยอยู่ที่ 1,039 เยน หรือประมาณ 219 บาท ราคาที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ทำให้พนักงานราวร้อยละ 24 ยอมที่จะอดมื้อกลางวันเป็นบางครั้งในวันทำงาน

ศาสตราจารย์ มิโยุกิ สึยุคิ จากมหาวิทยาลัยเทเคียว ผู้เชี่ยวชาญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร หรือ CSR บอกว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนตึงตัว บริษัทจึงจำเป็นต้องดูแลทั้งความเป็นอยู่และสุขภาพของพนักงาน ซึ่งโรงอาหารในบริษัทมีศักยภาพที่จะถูกใช้งานให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถเป็นพื้นที่สำหรับการปฏิสัมพันธ์ของพนักงานด้วยกันได้

ที่มา
Company Cafeterias Raise Their Game by Offering Affordable, Healthy Meals and Alcohol in Evenings