จังหวัดน่านจัดงานสืบสานประเพณี วัฒนธรรม และเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง NAN The Legacy of Love ในระหว่างวันที่ 29–31 ธันวาคม 2568 ณ ถนนสุริยพงษ์ ถนนสายประวัติศาสตร์ใจกลางเมือง ซึ่งได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ให้กลายเป็น “ถนนแห่งศรัทธา 888 เมตร” พื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ผู้คนร่วมเดินชม เรียนรู้ และสัมผัสความหมายของศรัทธาและวัฒนธรรมเมืองน่านในช่วงส่งท้ายปี
สักก์สีห์ พลสันติกุล ศิลปินน่านผู้ออกแบบงานประติมากรรม “น่านนาคา” กล่าวว่า หัวใจของงานคือโครงการประติมากรรมร่วมสมัยซึ่งพัฒนาขึ้นบนฐานแนวคิด ศรัทธา–ภูมิปัญญา–การมีส่วนร่วมของเมือง โดยเชื่อมโยงตำนานพญานาคในพุทธศาสนาและคติความเชื่อท้องถิ่น เข้ากับหัตถศิลป์ล้านนาตะวันออกและนวัตกรรมด้านแสงร่วมสมัย ประติมากรรมทั้ง 8 องค์ถูกจัดวางตามจุดสำคัญของเมือง ตั้งแต่บริเวณวัดมิ่งเมืองไปจนถึงวัดกู่คำ ทำให้การเดินชมงานเปรียบเสมือนการอ่าน “แผนที่ความเชื่อ” ของน่าน ผ่านพื้นที่เมืองจริงที่ผู้ชมสามารถเดิน มอง รู้สึก และเรียนรู้ไปพร้อมกัน

สักก์สีห์ พลสันติกุล (ที่มา: UrbanKraft)
การออกแบบและจัดสร้างประติมากรรมครั้งนี้ เป็นการถอดรหัสพุทธศิลป์ล้านนาตะวันออกจากวัดสำคัญ ตำนาน และความเชื่อดั้งเดิม มาตีความใหม่ผ่านภาษาศิลปะร่วมสมัย โดยใช้วัสดุอย่างโครงสร้างเหล็ก ไม้ไผ่ ผืนผ้า กระดาษ งานฉลุ ตุง และงานทอพื้นถิ่น ผสานการออกแบบแสงและเงา เพื่อให้ประติมากรรมแต่ละองค์ทำหน้าที่เป็น “แสงแห่งศรัทธา” ที่ผู้คนรับรู้ได้ทั้งทางสายตาและอารมณ์ความรู้สึก
การทำงานครั้งนี้ให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างเป็นระบบ โดยการใช้ช่างฝีมือและแรงงารนจากเมืองน่านหลายร้อยชีวิตเป็นหัวใจสำคัญ โดยมีเครือข่ายช่างฝีมือเมืองปัว เครือข่ายพุทธศิลป์น่าน ชุมชนหัตถศิลป์ ชุมชนตำบลเรือง กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง เยาวชนจังหวัดน่าน และเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านความเชื่อ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ไปจนถึงการลงมือผลิตจริงในงานโครงสร้าง งานจักสาน งานทอผ้า งานประดิษฐ์ และรายละเอียดตกแต่ง ทำให้น่านนาคาเป็นผลงานที่ชุมชนมีส่วนร่วมและรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม ไม่ใช่งานศิลปะที่ถูกนำมาวางในเมืองโดยปราศจากราก


ในกระบวนการพัฒนา บริษัท เออร์เบิน คราฟต์ จำกัด (UrbanKraft) โดย ณัฐกร สมบัติธรรม ภายใต้ Orange Lab ใน Spectrum Lab ของบริษัทแคนวาส เวนเจอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทำหน้าที่เป็นทีมออกแบบเคียงข้างศิลปิน และชุมชน โดยการวางกรอบการทำงานเชิง Creative & Cultural และ Urban Experience Design ควบคู่กัน ซึ่งสนับสนุนการถอดรหัสศรัทธา ความเชื่อ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้แปรเปลี่ยนเป็นประสบการณ์การรับชมในพื้นที่เมืองจริง ผ่านการออกแบบลำดับการเดินชม ความลื่นไหลของผู้คน การกำหนดระยะการมองเห็น และจังหวะทางอารมณ์ตลอดเส้นทาง 888 เมตร เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความสงบ ความศรัทธา ความตื่นตา และการมีส่วนร่วม โดยยังคงเคารพหัวใจของงานศิลปะและอัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นแกนหลัก

ณัฐกร สมบัติธรรม ด้านซ้ายของภาพ (ที่มา: UrbanKraft)
นอกจากนี้ UrbanKraft ยังทำหน้าที่เชื่อมโยงมิติด้านข้อมูลและการเข้าถึงของผู้ชม ผ่านการออกแบบโครงสร้างประสบการณ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมเข้าถึงเนื้อหาเชิงลึกของงานศิลปะ แนวคิด และบริบททางวัฒนธรรมในรูปแบบที่เข้าใจง่าย โดยไม่รบกวนบรรยากาศศรัทธาของพื้นที่ ผ่านช่องทาง Urban Talk Platform ในนามสื่อ Nan Talk กระบวนการดังกล่าวช่วยให้การจัดงานไม่เพียงเป็นการแสดงศิลปะ แต่เป็นระบบการเรียนรู้และการรับรู้ของเมือง ที่สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาเมืองเชิงวัฒนธรรมในอนาคต
งาน NAN The Legacy of Love จึงไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองช่วงปลายปีของจังหวัดน่าน หากยังเป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างศิลปิน ชุมชน และนักออกแบบเมือง ที่ใช้ศิลปะ วัฒนธรรม และประสบการณ์ เป็นพลังในการขับเคลื่อนเมืองอย่างมีความหมาย