รายงานของ ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) ล่าสุด สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยในปี 2568 พบว่า ในด้านการเงิน ส่วนใหญ่กังวลกับเรื่องของค่าครองชีพมากที่สุด ส่วนเรื่องสุขภาพ มีความกังวลถึงความปลอดภัยของอาหารที่รับประทาน ขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
การสำรวจข้อมูลผู้บริโภคชาวไทยดังกล่าว ทำขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2568 โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนไทยจำนวน 521 คน ถึงพฤติกรรมการเลือกซื้ออาหาร ของใช้ต่างๆ ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพและเทคโนโลยี และความกังวลในเรื่องสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ผลการสำรวจพบว่า "ค่าครองชีพ" เป็นสิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยรู้สึกกังวลมากที่สุด โดยร้อยละ 57 มองว่า จะส่งผลกระทบต่อชีวิตมากที่สุดในช่วง 1 ปีนับจากนี้ รองลงมา คือ เรื่องความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ร้อยละ 46 อันดับ 3 คือเรื่องความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร้อยละ 41
ในเรื่องความมั่นคงทางการเงิน ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ ร้อยละ 53 รู้สึกว่า ยังมีความมั่นคงด้านการเงิน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ร้อยละ 46 ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 36 ระบุว่า การเงินอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องประคับประคอง และร้อยละ 8 ระบุว่า ไม่มีความมั่นคงด้านการเงินเลย
ส่วนในเรื่องการซื้ออาหารบริโภค ผู้ตอบแบบสำรวจมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยและการปนเปื้อนสารพิษต่างๆ รวมถึงอาหารที่ผ่านการแปรรูปหลายขั้นตอน หรือ Ultra-processed foods (UPFs) โดยร้อยละ 66 กังวลถึงสารเคมีปราบศัตรูพืชที่ตกค้างในอาหาร ร้อยละ 55 กังวลเกี่ยวสารกันบูดและสารเจือปนในอาหาร ร้อยละ 51 กังวลถึงความเสี่ยงจากอาหารที่กระบวนการปรุงแต่งหลายขั้นตอน
ส่วนปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหาร ผู้ตอบแบบสำรวจให้ความสำคัญกับเรื่องของราคามากที่สุด เป็นสัดส่วนร้อยละ 51 รองลงมาคือ เรื่องของรสชาติ ร้อยละ 47 และคุณค่าทางโภชนาการ ร้อยละ 43
พฤติกรรมในการจับจ่ายซื้อสินค้าเครื่องใช้ต่างๆ ส่วนใหญ่ยังนิยมซื้อจากร้านค้าของชำ ร้านค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงตลาดสินค้าการเกษตร รองลงมา คือ การซื้อผ่านทางแฟลตฟอร์มออนไลน์ หรือระบบจัดส่งให้กับสมาชิก
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เปลี่ยนยี่ห้อสินค้าที่ซื้อ ร้อยละ 51 ระบุว่า เป็นเรื่องความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และร้อยละ 43 ให้ความสำคัญกับผลดีต่อสุขภาพ และเรื่องของรสชาติ
ในด้านสุขภาพ ผู้ตอบแบบสำรวจ ร้อยละ 38 มองว่า ตัวเองมีสุขภาพที่ดีเยี่ยม ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่สัดส่วนนี้อยู่ที่ร้อยละ 46 ขณะที่ร้อยละ 41 มองว่า ตัวเองมีสุขภาพดี
ในเรื่องการดูแลสุขภาพ ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 40 ตอบว่า รับประทานอาหารเสริมจำพวกวิตามินเป็นประจำ ในขณะที่ร้อยละ 86 มีการลดการดื่มแอลกอฮอล์ลง และร้อยละ 70 พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่มีการแปรรูปหลายขั้นตอน
ส่วนความถี่ในการซื้ออาหารรับประทาน ไทยอยู่ในสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก โดยร้อยละ 78 ของผู้ตอบแบบสำรวจซื้ออาหารสำเร็จรูปมากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับทั่วโลกค่าเฉลี่ยนี้อยู่ที่ร้อยละ 38 และร้อยละ 70 สั่งอาหารกลับไปกินที่บ้านทุกสัปดาห์หรือบ่อยกว่านั้น ซึ่งทั่วโลกค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 34
ในเรื่องการใช้เทคโนโลยีช่วยเรื่องสุขภาพ ผลสำรวจพบว่า คนรุ่นใหม่เปิดรับการใช้เทคโนโลยีเอไอให้ช่วยเรื่องการวางแผนออกกำลังกาย และการวินิจฉัยโรคในสัดส่วนที่มากกว่า ขณะที่ภาพรวม ร้อยละ 79 สวมอุปกรณ์หรือใช้แอปพลิเคชันช่วยเรื่องสุขภาพ โดยร้อยละ 98 บอกว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่มีผลต่อชีวิตประจำวัน ราวครึ่งหนึ่งระบุว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปอย่างชัดเจน
ในประเด็นเรื่องสภาพภูมิอากาศโลก พบว่า ร้อยละ 92 ของผู้ตอบแบบสำรวจมีความกังวลต่อการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศโลก โดยร้อยละ 44 ตอบว่า คิดถึงเรื่องนี้ทุกวัน ร้อยละ 41 ระบุว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เป็นบางครั้ง
สำหรับการมีส่วนร่วมกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 44 ตอบว่า เลือกซื้ออาหารที่ปราศจากเคมีกำจัดแมลง ร้อยละ 43 เลือกหรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้ให้น้อยที่สุด และร้อยละ 41 ตอบว่า เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่สนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ขณะที่ร้อยละ 66 ยินดีจ่ายเงินเพิ่มให้กับการผลิตอาหารที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 70 พยายามลดปริมาณขยะอาหาร