ภาพยนตร์เรื่อง “The Beautiful Game” ที่ฉายทาง Netfix นำเสนอเรื่องราวการแข่งขัน “ฟุตบอลโลกของคนไร้บ้าน” หรือ Homeless World Cup โดยอิงพื้นฐานจากเรื่องจริง ในการใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการนำคนไร้บ้าน ซึ่งถูกโดดเดี่ยวและถูกกีดกันให้กลับสู่สังคม
“Homeless World Cup” ก่อตั้งขึ้นโดย “เมล ยัง” ผู้ประกอบการทางสังคมชาวสกอตแลนด์ กับเพื่อนสนิท “ฮาราลด์ ชมิดท์” นักสังคมศาสตร์และสื่อมวลชนชาวเยอรมัน ซึ่งจัดทำ The Big Issue หนังสือพิมพ์เพื่อให้คนไร้บ้านนำไปจำหน่ายเป็นรายได้ยังชีพ
“หลังจากถกกันมาอย่างยาวนาน พวกเราก็ได้สร้าง Homeless World Cup หรือฟุตบอลโลกของคนไร้บ้านขึ้นมา โดยทีมที่เข้าแข่งขันจะมาจากทั่วโลกในนามตัวแทนของประเทศ มาแข่งในทัวร์นาเมนต์สตรีทฟุตบอลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ มันจะมีพลังและสร้างบทสนทนาที่มีชีวิตชีวา เราสองคนจินตนาการถึงการแข่งขันฟุตบอลที่มีสีสัน ที่จะเปลี่ยนชีวิตของผู้คนไปเลย” เมลกล่าว
18 เดือนต่อมา การแข่งขันฟุตบอลโลกคนไร้บ้านครั้งแรก ก็เกิดขึ้นที่เมืองกราซ ประเทศออสเตรีย ในเดือนกรกฏาคม ปี 2003 ฮาราลด์ ผู้ร่วมก่อตั้งเป็นประธานเปิดการแข่งขัน มีคนไร้บ้าน 144 คนจากทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งรวม 18 ทีม นักเตะในทีมผสมผสานกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย โดยออสเตรียเจ้าภาพคว้าตำแหน่งแชมป์โลกครั้งแรกไปครอง
The Beautiful Game
การแข่งขันในปีต่อๆ มา จัดขึ้นที่เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน, ที่เอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์, เคปทาวน์ แอฟริกาใต้, โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก, เมลเบิร์น ออสเตรเลีย, มิลาน อิตาลี, ริโอเดอจาเนโร บราซิล, ปารีส ฝรั่งเศส, เม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก, พอซนัน โปแลนด์, ซานติอาโก ชิลี, อัมสเตอดัม เนเธอร์แลนด์, กลาสโกว์ สกอตแลนด์, ออสโล นอร์เวย์, เม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก, คาร์ดิฟ เวลส์, ซาคลาเมนโต สหรัฐอเมริกา
ฟุตบอลโลกคนไร้บ้านล่าสุด ครั้งที่ 19 จัดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2024 โดยเม็กซิโกคว้าแชมป์โลกได้ทั้งทีมชายและทีมหญิง ทีมชาย เม็กซิโกชนะอังกฤษ 6-5 ทีมหญิง เม็กซิโกเอาชนะโรมาเนียไปได้ 5-2 มีทีมฟุตบอลคนไร้บ้านจากชาติต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขัน 52 ทีม จาก 38 ชาติ นักเตะเข้าแข่งขัน 450 คน
การสำรวจขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2005 พบว่า ทั่วโลกมีคนไร้บ้านอยู่ราว 100 ล้านคน สาเหตุที่นำมาสู่การเป็นคนไร้บ้านมีความหลากหลายและซับซ้อน โดยประสบการณ์ส่วนใหญ่ของคนไร้บ้านล้วนเคยผ่านการถูกกีดกันและถูกตีตราจากสังคม ต้องเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจและอยู่ในความยากจน รวมทั้งมีปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นคนไร้บ้าน มักเป็นกลุ่มคนรายได้ต่ำในประเทศที่ติดกับดักความยากจน หรือเป็นชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่ม LGBTQI+ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีหรือเป็นผู้พิการ ผู้ลี้ภัยสงครามหรือภัยธรรมชาติ ผู้มองหาแหล่งพักพิง และคนที่ได้รับการบำบัดยาเสพติด การเยียวยาจากการถูกทารุณและการถูกล่วงละเมิด
ยูโซ ยามาดะ หนึ่งในคนไร้บ้านที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมญี่ปุ่นในการแข่งขันฟุตบอลโลกคนไร้บ้านที่กรุงโซล ในปี 2024 เรื่องราวคนไร้บ้านของเขาเริ่มขึ้นหลังทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่ประเทศเยอรมนีในเดือนกรกฎาคม ปี 2011
ในช่วงเวลานั้น ยูโซ กำลังมีความสุขกับการเป็นเชฟในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปแบบกลับตาลปัตร เมื่อแม่ของเขาเกิดล้มป่วยอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เขาต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลแม่
“หลังจากที่แม่จากไป ผมหางานใหม่ไม่ได้เลย ผมเลยไม่มีเงินและต้องเสียบ้านไปตอนที่อายุ 53ผมกลัว ผมรู้สึกประสาทเมื่อต้องคิดถึงว่าทำยังไงถึงจะมีอาหารกิน ผมใช้ชีวิตนอนที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่และตามข้างถนน” ยูโซเล่า
ยูโซเริ่มออกเร่ขายนิตยสาร Japan’s Big Issue ซึ่งเป็นนิตยสารที่ทำขึ้นสำหรับคนไร้บ้านในญี่ปุ่นนำไปขายเพื่อมีรายได้ยังชีพ การขายนิตยสารทำให้เขาได้พูดคุยและสนุกกับการได้พบปะผู้คน ซึ่งทำให้เขาเริ่มกลับมารักการมีชีวิตอีกครั้ง ในระหว่างนั้นก็เข้าคอร์สสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเตะฟุตบอล
“ผมไม่ใช่นักฟุตบอลเลยในตอนที่ยังอายุน้อยกว่านี้ จริงๆ แล้วผมไม่เคยสัมผัสลูกบอลเลยด้วยซ้ำ กีฬาของผมคือเบสบอล ผมพบว่าฟุตบอลเรียนรู้ยากจริงๆ แต่ผมก็เริ่มทำได้ดีขึ้นอย่างช้าๆ และเริ่มที่จะสนุกกับมัน” ยูโซเล่าพร้อมเสียงหัวเราะ
ญี่ปุ่นไม่ได้เข้าร่วมการแข่งฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน จนกระทั่งหลังปี 2011 และในปี 2024 ยูโซในวัย 65 ปีก็กลายเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดของทัวร์นาเมนต์การแข่งขันที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
“ผมฝึกซ้อมเป็นเวลาหลายปี ผมเลยพอมีทักษะบ้าง และคิดว่านั่นทำให้ผมได้รับเลือกไปแข่งฟุตบอลโลกคนไร้บ้านปี 2024” ยูโซกล่าว
ขณะที่ฟาห์รูดิน มูมิโนวิค หนึ่งในคนไร้บ้านที่เข้าร่วมทีมบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ในฟุตบอลโลกคนไร้บ้านปี 2019 ซึ่งจัดขึ้นในกรุงคาร์ดิฟฟ์ ของเวลส์
ฟาห์รูดิน ผ่านเหตุการณ์อันโหดร้ายของสงครามกลางเมืองและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอดีตยูโกสลาเวีย ในวัยเพียง 7 ปี เขาเห็นพ่อถูกสังหารรวมกับคนอื่นๆ ในหมู่บ้านอีกกว่า 150 คนในเหตุการณ์สังหารหมู่ปี 1995 รอบตัวฟาห์รูดิน มีแต่เสียงปืนและซากศพ เขารู้สึกกลัวและโดดเดี่ยว เมื่อรู้ว่าไม่มีคนที่รู้จักเหลือรอดอยู่แล้ว ฟาห์รูกินตกเป็นกำพร้าหลังพ่อถูกฆ่า และแม่เสียชีวิตภายหลังคลอดน้องสาว ทำให้เขาหันหาฟุตบอล
“ตอนที่อยู่บ้าน มันยากลำบากมากๆ เพราะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล แต่พอผมได้เล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ หรือมาแข่งในฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน ผมรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า” ฟาห์รูดินกล่าว
ประเทศที่เป็นสมาชิกการแข่งฟุตบอลโลกคนไร้บ้านทั่วโลก มีอยู่ราว 70 ประเทศ วิสัยทัศน์ของ ฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน คือ โลกที่ไม่มีคนไร้บ้านอีกต่อไป ภารกิจ คือ การใช้กีฬาฟุตบอลเพื่อส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้คนไร้บ้านได้มีโอกาสในชีวิต และเปลี่ยนการรับรู้ ทัศนคติของสังคมที่มีต่อคนที่เคยผ่านประสบการณ์เป็นคนไร้บ้าน โดยดำเนินการร่วมกับองค์กรระดับรากหญ้า 70 องค์กรทั่วโลกในการใช้ฟุตบอลเพื่อต่อสู้กับการไร้บ้านและการถูกแบ่งแยกจากสังคม
เว็บไซต์ Homeless World Cup ระบุว่า การที่คนต้องกลายมาเป็นคนไร้บ้าน สามารถทำให้พวกเขาโดดเดี่ยวอย่างมาก และรู้สึกว่า ถูกลบออกจากสังคม การเข้าร่วมทีมฟุตบอลอาจเป็นส่วนเล็กๆ ที่เป็นก้าวใหญ่ซึ่งมีความสำคัญในการช่วยให้คนไร้บ้านกลับเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
เมื่อคนไร้บ้านเข้าร่วมทีมฟุตบอล พวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์ จากตัวคนเดียวไปสู่การเล่นเป็นทีม มีความรับผิดชอบต่อการซ้อมและการแข่งขัน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวพวกเขาเอง และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
“ในการแข่งฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน เรามองฟุตบอลเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเล่นที่ยุติธรรม สร้างความเท่าเทียมในการเล่นในสนาม และนักเตะมีโอกาสปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้ที่มีอำนาจ เราหวังว่า การเรียนรู้และการมอบโอกาสการพัฒนาทักษะของนักเตะ จะเปิดโอกาสให้พวกเขากลับมาเป็นกรรมการ หรือเป็นโค้ชของทีมฟุตบอลคนไร้บ้าน” เว็บไซต์ Homeless World Cup ระบุ
การแข่งขันฟุตบอลโลกคนไร้บ้าน ในปี 2025 นี้ จะจัดขึ้นกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ระหว่างวันที่ 23-30 สิงหาคม
อ้างอิง
เว็บไซต์ Homeless World Cup
“I want to write my own future”
Yuzo’s Generation Game