โครงการ World Values Survey และ European Values Study ทำการสำรวจเก็บข้อมูลจากคนทั่วโลกตั้งแต่ปี 1984 ถึง 2022 ถึง “ความไว้ใจ” คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก พบว่า กลุ่มประเทศนอร์ดิก มีสัดส่วนของคนคิดว่า คนส่วนใหญ่ “เชื่อใจได้” เป็นสัดส่วนสูงที่สุด โดยชาวเดนมาร์ก มีความไว้ใจคนแปลกหน้าเป็นสัดส่วนสูงที่สุดในโลกถึงร้อยละ 74 ขณะที่ไทยอยู่ที่ร้อยละ 29
ในการสำรวจ ใช้คำถามเดียวคือ “คุณคิดว่า คนส่วนใหญ่สามารถเชื่อใจได้ หรือว่าควรต้องระมัดระวังอย่างมากในการปฏิสัมพันธ์ด้วย” ซึ่งผลสำรวจพบว่า ผู้คนในประเทศที่คิดว่า “คนส่วนใหญ่เชื่อใจได้” เป็นสัดส่วนสูงที่สุด อยู่ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ขณะที่ประเทศที่คนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เชื่อใจได้อยู่ในระดับต่ำ อยู่ในแอฟริกา เอเชีย บางประเทศในยุโรปตะวันออก และอเมริกาใต้
จากการสำรวจ พบว่า ประเทศที่คนเชื่อว่า คนส่วนใหญ่เชื่อใจได้ สูงเป็นอันดับ 1 คือ เดนมาร์ก (ร้อยละ 74), อันดับ 2 นอร์เวย์ (ร้อยละ 72), อันดับ 3 ฟินแลนด์ (ร้อยละ 68), อันดับ 4 สวีเดน และจีน (ร้อยละ 63), อันดับ 5 สวิตเซอร์แลนด์ (ร้อยละ 59), อันดับ 6 เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 57), อันดับ 7 ออสเตรีย (ร้อยละ 50), อันดับ 8 ออสเตรเลีย (ร้อยละ 49), อันดับ 9 แคนาดา (ร้อยละ 47), อันดับ 10 สหราชอาณาจักร (ร้อยละ 43) ขณะที่สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ร้อยละ 37
ส่วนประเทศที่มีคนเชื่อว่า คนส่วนใหญ่เชื่อใจได้ อยู่ในสัดส่วนที่น้อยที่สุด อันดับ 1 ซิมบับเว (ร้อยละ 2), อันดับ 2 แอลเบเนีย (ร้อยละ 3), อันดับ 3 นิคารากัว และเปรู (ร้อยละ 4), อันดับ 4 อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กานา และโคลอมเบีย (ร้อยละ 5), อันดับ 5 เอกวาดอร์ (ร้อยละ 6), อันดับ 6 อียิปต์ และไซปรัส (ร้อยละ 7), อันดับ 7 กรีซ (ร้อยละ 8), อันดับ 8 ลิเบีย และเคนยา (ร้อยละ 9), อันดับ 9 บังคลาเทศ (ร้อยละ 13), อันดับ 10 เม็กซิโก และเลบานอน (ร้อยละ 10)
สำหรับประเทศในเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน มีสัดส่วนของคนที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไว้ใจได้สูงที่สุดที่ร้อยละ 63, ตามมาด้วยญี่ปุ่น ร้อยละ 34, เกาหลีใต้ ร้อยละ 33, ไทย ร้อยละ 29, เวียดนาม ร้อยละ 28, มาเลเซีย ร้อยละ 20, มองโกเลีย ร้อยละ 26, รัสเซีย คาซัคสถาน และปากีสถาน ร้อยละ 23, ทาจิกิสถาน ร้อยละ 21, อินเดีย ร้อยละ 17, เมียนมา ร้อยละ 15 และบังคลาเทศ ร้อยละ 13
ผู้ทำการสำรวจระบุว่า คำตอบเหล่านี้สะท้อนถึงความคิดที่หลากหลายของคนในประเทศต่างๆ ที่มีต่อความไว้เนื้อเชื่อใจผู้อื่น ซึ่งมีพื้นฐานจากประสบการณ์ส่วนตัว หรือค่านิยมและวัฒนธรรมที่มีต่อความไว้วางใจคนที่ไม่รู้จัก
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังพบว่า ความเชื่อใจผู้อื่นมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ความไว้วางใจ เป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของทุนทางสังคม ที่ส่งผลต่อความสามัคคีของคนในชุมชน และความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
การสำรวจของ World Values Survey ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อใจกับรายได้ต่อคนต่อปี ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงบวก โดยระบุว่า ประเทศที่มีทัศนคติเรื่องความเชื่อใจสูง กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็จะสูงตามไปด้วย และเมื่อเจาะลึกลงไปถึงความเชื่อมโยงดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ นักวิจัยพบความสัมพันธ์ที่เป็นเหตุและผลว่า ความเชื่อใจมีส่วนในการขับเคลื่อนการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
การศึกษาผลการสำรวจยังพบว่า ระดับของความเชื่อใจที่ต่ำ จะทำให้ต้นทุนของการดำเนินการทางธุรกิจสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ความเชื่อใจที่ต่ำส่งผลต่อความยินดีของประชาชนที่จะจ่ายเงินภาษีไปกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะต่างๆ และระดับของความเชื่อใจที่ต่ำ ยังส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และนำไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
อ้างอิง
When asked if most people can be trusted, responses vary significantly around the world
Trust
Trust: A cornerstone of Danish culture
Trust: the invisible Danish resource