รัฐบาลญี่ปุ่นเผยสถิติการเสียชีวิตของชาวญี่ปุ่นจากสาเหตุจมน้ำในปี 2023 มีจำนวนถึง 8,993 ราย โดยที่ร้อยละ80 หรือ 6,909 ราย เกิดขึ้นในอ่างอาบน้ำที่บ้านหรือตามสถานที่อื่นๆ และราวร้อยละ 90 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
ด้วยการเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุด ทำให้จำนวนประชากรสูงอายุของญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในอ่างอาบน้ำเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนกลับลดน้อยลง เนื่องจากความเข้มงวดในการลงโทษผู้ที่ขับขี่ยานยนต์ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำหน้าของรถยนต์ เช่น ระบบเบรคอัตโนมัติ
ในปี 2023 ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากการจมน้ำในอ่างอาบน้ำ มีจำนวนสูงกว่าการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนถึงเกือบ 3 เท่า โดยมีจำนวนผู้สูงอายุที่เสียชีวิตในอ่างอาบน้ำ 6,073 ราย ขณะที่มีผู้สูงอายุเสียชีวิตบนถนน 2,116 ราย
การเสียชีวิตของผู้สูงอายุขณะอาบน้ำเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูหนาว จากอาการ “ฮีทช็อค” ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร่างกายแบบฉับพลัน เช่น การลุกออกจากห้องนั่งเล่นซึ่งอากาศอุ่นไปยังห้องน้ำที่อากาศเย็นจัด ทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงหรือลดลง ส่งผลให้เกิดอาการหัวใจล้มเหลวหรือเส้นเลือดสมองแตก
หน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของญี่ปุ่น เตือนว่า ไม่ควรลงแช่น้ำทันทีหลังรับประทานอาหาร หรือหลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแนะนำให้ทำห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำให้อุ่น ก่อนการอาบน้ำเพื่อป้องกันการเกิดฮีทช็อค
คำเตือนนี้ยังรวมไปยังคนที่ชอบอบซาวน่า ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของคนทุกช่วงวัยด้วย แต่ผู้สูงอายุซึ่งเส้นเลือดขยายตัวได้ไม่ดีเท่าคนรุ่นหนุ่มสาว จะมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด หรืออาการเลือดออกในสมองจากการเปลี่ยนอุณหภูมิแบบกระทันหัน ระหว่างการอบซาวน่าสลับกับการแช่ตัวในน้ำเย็น
ที่มา
“Heat Shock” a Factor in Bathtub Drowning Deaths in Japan