รายงานล่าสุดของอ็อกซ์แฟม เผยถึงความไม่เป็นธรรมทางด้านสภาพภูมิอากาศ โดยกลุ่มคนที่รวยที่สุดของโลก ซึ่งมีอยู่ราวร้อยละ 1 ใช้โควต้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2025 หมดภายใน 10 วัน ขณะที่กลุ่มคนยากจนที่สุดซึ่งมีอยู่ราวครึ่งหนึ่งโลก ใช้เวลาเกือบ 3 ปี กว่าจะใช้โควต้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกของปีนี้หมด
รายงานการศึกษาฉบับนี้จัดทำโดย อ็อกซ์แฟม องค์กรระหว่างประเทศที่รณรงค์เรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา และเผยถึงความไม่เป็นธรรมของการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ ซึ่งอ็อกซ์แฟมเรียกวันเปิดตัวรายงานนี้ว่า เป็น "Pollutocrat Day"
การศึกษาของอ็อกซ์แฟม พบว่า กลุ่มคนร่ำรวยที่มีอยู่ราวร้อยละ 1 ของประชากรโลก ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ยคนละ 76 ตันต่อปี ส่วนกลุ่มคนซึ่งยากจนที่สุดที่มีราวครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ย 0.7 ตันต่อคนต่อปี
อ็อกซ์แฟม คำนวณโควต้าในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประชากรโลกต่อคนต่อปี เพื่อการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นขีดกำจัดที่ของการมีชีวิตอยู่แบบยั่งยืน โดยระบุว่า โควต้าของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประชากรโลกต่อคนต่อปี อยู่ที่ 2.1 ตัน
อ็อกซ์แฟม เสนอว่า เพื่อการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียสเป็นจริง กลุ่มคนรวยที่สุดจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 97 ภายในปี 2030
อ็อกซ์แฟม ระบุว่า ในปี 2050 มลพิษที่เกิดจากประเทศร่ำรวยจะสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตการเกษตรในปริมาณที่สามารถใช้เลี้ยงดูประชากรได้ 10 ล้านคนต่อปี
“คนอภิมหารวย ยังคงใช้โอกาสของมนุษยชาติที่จะมีชีวิตที่ดีอย่างสุรุ่ยสุร่ายต่อไป ชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ กำลังปล้นเอาอนาคตของคนนับพันล้านไปตอบสนองความละโมบของตัวเอง” นาฟโคเต้ ดาบี หัวหน้าฝ่ายนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของอ็อกซ์แฟมกล่าว
นักวิจัยของอ็อกซ์แฟม ระบุด้วยว่า นับจากปี 1990 มลภาวะที่ประเทศร่ำรวยที่สุดก่อขึ้น สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจราว 3 ล้านล้านดอลลาร์ สร้างความสูญเสียทางการเกษตร และมีผู้ต้องเสียชีวิตจากอากาศร้อนสุดขีดนับล้านคน
“30 ปีที่ผ่านมา ประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ ทนทุกข์กับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินเพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศที่ประเทศร่ำรวยสัญญาว่าจะมอบให้ 3 เท่า” นาฟโคเต้กล่าว
อ็อกซ์แฟม เสนอให้มีการเก็บภาษีกับคนรวยและสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น เช่น เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เรือซูเปอร์ยอร์ช เพื่อเป็นการบีบให้ลดการปล่อยมลพิษ และเสนอให้เพิ่มการสนับสนุนด้านการเงินในการต่อสู้กับสภาพอากาศ โดยระบุว่า ประเทศร่ำรวยเป็น “หนี้สภาพภูมิอากาศ” อยู่ราว 5 ล้านล้านดอลลาร์
“อนาคตโลกของเรากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย รัฐบาลประเทศต่างๆ ต้องหยุดการตามใจคนรวยที่ปล่อยมลพิษ” ชิอารา ลิกูโอรี ที่ปรึกษาอาวุโสนโยบายความเป็นธรรมด้านสภาพอากาศของอ็อกซ์แฟม กล่าว
อ็อกซ์แฟมคำนวณว่า การเก็บภาษาที่เป็นธรรมกับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และซูเปอร์ยอร์ชในสหราชอาณาจักร ควรเพิ่มเป็น 2 ล้านปอนด์ในปี 2023 เพื่อนำไปสร้างกองทุนสำหรับปฏิบัติการต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
อ้างอิง
Richest 1% burn through their entire annual carbon limit in just 10 days
'Pollutocrat Day': the world's richest have already burned their annual carbon limit for 2025; the poorest 50% will take 3 years