Skip to main content

 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) คัดเลือก 8 สตาร์ทอัพ/เอสเอ็มอีไทยด้านนวัตกรรมการแพทย์-สุขภาพนำเสนอผลงานนวัตกรรม ในงาน Medica 2024 ที่ประเทศเยอรมนี

สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีด้านนวัตกรรมการแพทย์-สุขภาพที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมงานทั้ง 8 ราย ได้แก่ Eidy โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ทางด้านการแพทย์ มีจุดเด่นด้านศัพท์เฉพาะทาง และระบบความคิดที่เหมือนกับแพทย์ สามารถนำมาต่อยอดเป็นแชทบอทสำหรับตอบคำถามด้านการแพทย์เฉพาะทาง

Ravis Technology แพลตฟอร์มบริหารการวิจัยทางคลินิก การจัดการข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เครื่องมือทางการแพทย์และยารักษาโรค โดยใช้เทคโนโลยีในการจัดการข้อมูล เพื่อประหยัดเวลาและงบประมาณ

Pose Intelligence แพลตฟอร์มบริหารจัดการเครื่องมือแพทย์ ที่ใช้ในงานบริการของโรงพยาบาล เช่น การจัดการคลังสินค้า การบริหารงานจ่ายกลางที่ควบคุมจัดการได้อย่างแม่นยำ ลดความซ้ำซ้อน ป้องกันความผิดพลาดได้อย่างดี

SOS Care แผ่นปิดแผลลิปิโดคอลลอยด์เคลือบสารสกัดจากสมุนไพรใบบัวบกและว่านหางจระเข้ (SI-HERB DRESSING) ผลิตจากโพลีเอสเตอร์เคลือบด้วยไฮโดรคอลลอยด์ชนิดไลปิด และสารสกัดสมุนไพร มีคุณสมบัติช่วยให้แผ่นปิดไม่ติดแผล รักษาความชุ่มชื้นของแผลได้ดี สามารถใช้ได้กับบาดแผลได้ทุกชนิด ลดอาการปวดและความถี่ในการทำแผล อีกทั้งยังช่วยย่นระยะเวลารักษาให้สั้นลงและแผลหายเร็วขึ้น

POPOLO อุปกรณ์ยางรัดเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร ที่เกิดจากความผิดปกติของเลือดที่ไปเลี้ยงตับ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้คนไทยเข้าถึงได้มากขึ้น และลดอัตราการเสียชีวิต

Orthopeasia แพลตฟอร์มออกแบบวัสดุทดแทนหมอนรองกระดูกสันหลัง ออกแบบและผลิตโดยโปรแกรมเฉพาะทาง ที่ช่วยให้การผ่าตัดทำได้ง่าย แผลเล็ก รวดเร็ว สะดวกขึ้น

BRE ผลิตภัณฑ์แผ่นอาบน้ำ แบบ 2 ขั้นตอน ที่ไม่ต้องใช้น้ำและสบู่ ช่วยให้คนไข้ที่อาบน้ำไม่ได้ใช้ชีวิตสะดวกขึ้น และ Aquatrek Solution นวัตกรรมลู่วิ่งสายพานในน้ำ อุปกรณ์สำหรับวารีบำบัด ช่วยลดความเสี่ยงจากการออกกำลังกายโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า ทั้ง 8 นวัตกรรมมีคู่ค้าและผู้ที่สนใจจากอเมริกา ยุโรป และแคนาดา เข้ามาพูดคุยจำนวนมาก เนื่องจากมีความต้องการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและฐานลูกค้า และหากมีโอกาสได้ร่วมทำวิจัย หรือตีพิมพ์วารสารร่วมกับนักวิชาการที่เยอรมนี รวมถึงการส่งนักวิจัยไปร่วมแลกเปลี่ยนฝึกงาน หรือการอนุญาตให้ใช้สิทธิเทคโนโลยีเพื่อการผลิตที่เยอรมนีบางชิ้นส่วนหรือทั้งหมด จะสามารถยกระดับความน่าเชื่อถือของเครื่องมือแพทย์ไทยได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งการได้ศึกษาข้อมูลผู้เข้าร่วมงานและผู้แสดงผลงาน Medica 2024 จะช่วยให้สามารถนำฐานข้อมูลจากการที่ได้เรียนรู้ตลาดมาพัฒนานวัตกรรมของไทยและวางแนวทางการตลาด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การจับคู่ธุรกิจ รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมระหว่างประเทศต่อไปได้ในอนาคต

ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปี พ.ศ. 2572 ตลาด MedTech ทั่วโลกจะมีแนวโน้มเติบสูงถึง 775.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีตลาดที่น่าสนใจอย่างเยอรมนี นอกจากนี้ เยอรมนียังมีการจัดงานแสดงสินค้าด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพระดับโลกอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี และได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นงานแสดงสินค้าทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 6,100 ราย จาก 69 ประเทศทั่วโลก

มาลีพรรณ ผาสุพงษ์ บริษัท ราวิส เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารการวิจัยทางคลินิก มองว่า การได้รับคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงนวัตกรรมการแพทย์-สุขภาพระดับโลก Medica 2024 ช่วยทำให้มีความรู้ความเข้าใจถึงความต้องการของตลาดองค์รวมในยุโรปที่มุ่งให้ความสนใจด้านดิจิทัล อุปกรณ์เกี่ยวกับสุขภาพและกายภาพ และการวินิจฉัย ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สตาร์ทอัพไทยสามารถนำเสนอนวัตกรรมได้ตรงกับความต้องการของตลาดแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เป้าหมายการจับคู่ธุรกิจเกิดขึ้นได้จริง จากการที่นานาประเทศได้รับรู้ถึงจุดเด่นด้านการวิจัยของประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศแถบตะวันตกที่มีแนวโน้มหันมาสนใจสร้างความร่วมมือการวิจัยในไทยมากขึ้น การเข้าร่วมงานครั้งนี้ บริษัทได้พาร์ทเนอร์และลูกค้าที่มีศักยภาพจำนวน 5 ราย ที่มีการหารือและคุยต่อหลังจากจบงาน

ธนัชพันธ์ มโนสิทธิศักดิ์ บริษัท เอสโอเอส แคร์ จำกัด ผู้พัฒนาแผ่นปิดแผลลิปิโดคอลลอยด์ผสมสารสกัดจากใบบัวบกและว่านหางจระเข้ ระบุว่า สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีด้านการแพทย์-สุขภาพของไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตในตลาดโลกได้ หากได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ ทั้งด้านเงินทุน ทรัพยากร การพัฒนาเทคโนโลยี เพราะประเทศไทยมีต้นทุนทางการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว การสนับสนุนจากภาครัฐจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีเกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ และช่วยเพิ่มโอกาสการขยายเครือข่ายธุรกิจและพันธมิตรทางการตลาด ด้วยภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ ทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นทางด้านคุณภาพและนวัตกรรมของสินค้าออกไปสู่เวทีระดับสากล ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าหลังจากที่เข้าร่วมงาน Medica 2024 จะสามารถหาตัวแทนจำหน่ายสินค้าได้ทั้งภายในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง เพื่อขยายตลาดสู่สากลมากขึ้น

NIA ภายใต้บทบาท “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor)” มุ่งสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยแนวคิด “Groom” ที่เน้นบ่มเพาะและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย “Grant” กลไกสนับสนุนเงินทุนที่เน้นการพัฒนาและขยายผลธุรกิจนวัตกรรมไปสู่ตลาด “Growth” การเร่งสร้างการเติบโตให้ธุรกิจนวัตกรรมทั้งในสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีไทย และ “Global” การส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยสู่ตลาดสากล โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ประเทศไทยมีความโดดเด่นและยังมีระบบการแพทย์ที่ดีติดอันดับโลก