Skip to main content

 

Libertus Machinus
 

 

งานอย่าง Ghostwriter ไม่ใช่งานที่ผู้คนยกย่องเท่าไหร่ เพราะคนจะมองว่า งานนี้ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีความสร้างสรรค์ เพราะมันคืองานรับจ้างเขียนหนังสือแทนคนที่เขียนหนังสือไม่เป็น แล้วหลอกผู้คนว่า นี่คือหนังสือที่ผู้คนเหล่านี้เขียนมากับมือ

แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว งานพวกนี้ "เงินดี" มากๆ และถ้าใครเคยติดตามพวกงานทำเงินดีๆ ในอเมริกา ก็อาจเคยอ่านเรื่องที่ทาง CNBC เสนอเรื่องของสาวคนนึงที่ทำเงินได้ 10 ล้านบาทต่อปีในช่วงโควิด โดยการทำงานเป็น Ghostwriter แต่ตอนนั้น เธอก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าทำไมงานนี้มันถึงรุ่งเรือง และจริงๆ มีคนทำได้อย่างเธอมากน้อยแค่ไหน?

โชคดีพอสมควรที่ The Wall Street Journal มีคอลัมน์รายงานเรื่องนี้พอดี โดยมีการรายงานตัวเลขรายได้ของงานของคนกลุ่มนี้ โดยการสำรวจของ สมาคมนักข่าวและนักเขียนอเมริกา ในปี 2024 ที่ทำการสำรวจ Ghostwriter กว่า 200 คน ในอเมริกา พบว่า คนอาชีพนี้ 1 ใน 3 รายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงไม่ใช่เล่น และที่น่าสนใจคือ Ghostwriter ถึง 25% บอกว่า พวกเค้าคิดเงินต่อการเขียนหนังสือเล่มหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยข้อมูลนี้ก็ได้รับการเสริมจากบริษัทที่รับจ้างผลิตหนังสือโดยตรงที่คิดเงินแบบเบ็ดเสร็จประมาณ 10 ล้านบาทต่อ 1 เล่ม ซึ่งนี่คือรวมค่าจ้าง Ghostwriter ค่าบรรณาธิการ ค่าจัดหน้า ค่าพิมพ์ ฯลฯ หมดแล้ว เรียกว่าจ่ายเท่านี้แล้วก็เตรียมรับหนังสือเล่มที่มีชื่อตัวเองเป็นผู้แต่งได้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่ามันมีจริงๆ เหรอคนที่จ่ายเงิน 10 ล้านบาท เพื่อจะผลิตหนังสือที่ตัวเองเป็นผู้แต่งมา? คำตอบคือ มี และอยากให้ลองคิดถึงยุคสมัยของ "อินฟลูเอนเซอร์" หรือกระทั่ง "คนดังออนไลน์" ในปัจจุบันนี้

ทุกวันนี้ คนพวกนี้มีเยอะมาก โลกผลิตคนพวกนี้มารายวัน เส้นทางความดังต่างๆ กัน มีตั้งแต่คนทำคอนเทนต์ออนไลน์แล้วสะสมผู้ติดตามมา ไปถึงคนที่เริ่มจากเป็นข่าวในสื่อกระแสหลักแล้วผันตัวมาเป็น "คอนเทนต์ครีเอเตอร์" แต่จุดร่วมคือแทบทั้งหมด "เขียนหนังสือไม่เป็น" ซึ่งคนพวกนี้ไม่น้อย มองว่าชื่อเสียงตัวเองสามารถต่อยอดเป็นสินค้าในรูปแบบหนังสือได้

จะให้มองเห็นความสมเหตุสมผลตรงนี้ก็อยากให้คิดว่า ทั้งตลาดโฆษณาและตลาดหนังสืออเมริกานี่มันใหญ่มหาศาลมาก รายได้ "อินฟลู" ในอเมริกาดังๆ หน่อยๆ น่าจะไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท ดังนั้น ค่าจ้างทำหนังสือขาย 10 ล้านบาทมันไม่ใช่สิ่งที่จะจ่ายไม่ได้ หนังสือ สมมติขายปกแข็งเล่มละ 500 บาท ก็ต้องขายได้อย่างต่ำ 20,000 เล่ม ถึงจะถอนทุน 10 ล้านบาทได้

นี่อาจฟังเป็นตัวเลขที่มากมาย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่านักเขียนอเมริกาดังๆ พิมพ์หนังสือมาทีขายได้เป็นล้านเล่มเป็นเรื่องปกติมากๆ พวก "เบสต์เซลเลอร์" ทั้งหลายว่ากันในสเกลนั้น โดยทั่วไปตัวเลขที่ถือว่ายอมรับกันว่า จะทำให้หนังสือเรียกว่า "เบสต์เซลเลอร์" แบบติดอันดับได้ คือยอดขายราวๆ 10,000 เล่มต่อสัปดาห์ แต่นั่นคือหมายถึงพวกเล่มที่ติดอันดับสูงๆ คือขายได้หลัก 100,000 เล่มในสัปดาห์แรกที่ออกมาก็ไม่ได้แปลกอะไร

ถ้าเข้าใจว่าตลาดมันใหญ่ขนาดนี้ เราก็จะไม่ประหลาดใจว่าพวก "อินฟลู" รายใหญ่ๆ ผู้ติดตามหลักล้านคน ไม่ได้มองว่าการขายหนังสือ "ไม่กี่หมื่นเล่ม" เป็นเรื่องยากอะไร และก็ไม่แปลกที่คนพวกนี้จะยอมจ่ายเงินถึง 10 ล้านบาทเพื่อสร้างหนังสือที่เป็นชื่อตัวเองออกมา และก็ไม่แปลกอีกที่คนพวกนี้หรือพวกบริษัทรับจ้างทำหนังสือ จะมีเงินหลักล้านบาทในการไปจ้าง Ghostwriter ให้ไปพูดคุยกับนายจ้าง เพื่อจะเขียน Memoir ออกมาขายโดยลงชื่อว่านายจ้างเป็นคนเขียน

ทั้งหมดเป็นเรื่องที่อาจทำให้หลายคนตื่นเต้นมาก เพราะคนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่เคยได้ยินว่างานกลุ่ม "นักเขียน" ทำเงินได้ขนาดนี้ แต่ก็นั่นเอง ที่เราย้ำมาตลอดคือ ทั้งหมดนี่ว่ากันในตลาดอเมริกาที่มันใหญ่โตมากมาตั้งแต่รายได้ของคนจะจ้างทำหนังสือ ไปจนถึงขนาดตลาดหนังสือที่ใหญ่มากอยู่แล้ว ถ้าตัดมาไทยจริงๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยว่า ถ้าคิดจะทำบ้างทุกอย่างตั้งแต่รายได้ยันยอดขายหนังสือรวมๆ คือ ลดลงมาไม่ถึง 1 ใน 10 ของอเมริกาแน่ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ "อาชีพ" Ghostwriter แบบร่ำรวยที่มีในอเมริกาคงไม่เกิดในไทยแน่นอน

นี่เราก็ยังไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าถ้า "อินฟลู" เมืองไทยรุ่นใหม่ๆ จะเขียนหนังสือขาย สิ่งที่เค้าจะนึกถึงก่อนการจ้าง Ghostwriter ดูจะเป็นการใช้ AI ช่วยเขียนมากกว่า
   

อ้างอิง
How this 28-year-old went from $36,000 a year to $378,000 a year on Fiverr
 Want to Earn Six Figures as a Writer? Try Ghostwriting.
 

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน