Skip to main content

 

สตาร์ทอัพจากยูเครน พัฒนาวิธีผลิตกระดาษโดยที่ไม่ต้องตัดต้นไม้ และยังลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิตกระดาษลงได้เกือบ 80% แถมยังใช้น้ำน้อยกว่ากระบวนการผลิตกระดาษแบบเดิมได้ถึง 15 เท่า โดยนำเอาใบไม้ที่ร่วงจากต้นตามธรรมชาติตามที่ต่างๆ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ

ทุกปีจะมีต้นไม้ถูกตัดโค่นราว 1.5 หมื่นล้านต้น และราวร้อยละ 40 หรือประมาณเกือบ 6 พันล้านต้น ถูกใช้ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ ทำให้อุตสาหกรรมกระดาษกลายเป็นหนึ่งในผู้ซื้อไม้รายใหญ่ ทั้งอาจยังเป็นผู้สนับสนุนการตัดไม้ทำลายป่ารายใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

แม้อุตสาหกรรมกระดาษจะมีส่วนสำคัญของการเกิดภาวะโลกร้อน แต่แทบจะไม่มีผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่สามารถมาใช้ทดแทนกระดาษได้ เนื่องจากมีการใช้กระดาษเป็นปริมาณมหาศาลในชีวิตประจำวัน นับตั้งแต่โบรชัวร์ไปจนถึงกระดาษชำระ แต่หนึ่งหลายวิธีในการผลิตกระดาษโดยที่ไม่ต้องตัดต้นไม้เลย คือวิธีที่ Releaf Paper สตาร์ทอัพจากประเทศยูเครน สามารถทำได้สำเร็จ

Releaf Paper พัฒนาวิธีการผลิตกระดาษโดยใช้ใบไม้ที่หลุดร่วงจากต้นไม้ตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถเปลี่ยนใบไม้ร่วงปริมาณ 2.3 ตัน ให้กลายเป็นเซลลูโลสหรือวัตถุดิบในการผลิตกระดาษได้ที่ราว 1 ตัน ต่างจากวิธีการแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ต้นไม้มากถึง 17 ต้นเพื่อผลิตเซลลูโลสให้ในปริมาณที่เท่ากัน

ใบไม้ที่ร่วงจากต้นเป็นสิ่งเมืองต่างๆ ทั่วโลกต้องการจัดการ เนื่องจากเป็นเสียทางชีวภาพที่จัดการได้ยาก และจะสลายตัวเกิดเป็นฟอสฟอรัสที่เป็นต้นเหตุของการทำให้สาหร่ายแพร่กระจายไปตามแหล่งน้ำ นอกจากนั้น ยังไปอุดตันตามรางน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งโดยปกติแล้ว ใบไม้เหล่านี้จะถูกนำไปฝังกลบหรือถูกนำไปเผา และส่งผลให้เกิดมลพิษ ขณะที่มีใบไม้ร่วงเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักได้

Releaf Paper บอกว่า “โดยเฉลี่ยแล้ว แต่ละเมืองต้องจัดการกับใบไม้ร่วงมากถึง 8,000 ตันต่อปี และแค่เขตเมืองในยุโรปก็สามารถเก็บใบไม้ร่วงได้มากกว่าหนึ่งล้านต้น”

ด้วยเหตุนี้ แทนที่เมืองต่างๆ ในยุโรปจะเผาใบไม้ร่วงเหล่านี้ พวกเขาส่งขยะใบไม้ไปยังโรงงานของ Releaf Paper ที่อยู่ในกรุงปารีส โดยขั้นตอนการนำใบไม้ร่วงไปผลิตกระดาษ จะเริ่มจากการนำไปล้างให้สะอาดและผสมกับสารชีวภาพ แล้วตากแห้ง จากนั้นก็จะได้ผลิตภัณฑ์กระดาษที่สามารถนำไปทำเป็นถุงกระดาษ สมุดจด กล่องกระดาษ กระดาษห่อของขวัญ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

Releaf Paper ประมาณการว่า ผลิตภัณฑ์กระดาษของพวกเขา ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลงเกือบ 80% และใช้น้ำน้อยกว่ากระบวนการผลิตกระดาษแบบเดิมถึง 15 เท่า โดยกระดาษที่ทำจากใบไม้จะย่อยสลายในดินได้ภายใน 30 วัน ขณะที่กระดาษทั่วไปจะมีระยะเวลาในการย่อยสลายอยู่ที่ 270 วันหรือมากกว่านั้น

Releaf Paper กำหนดว่า ใช้ใบไม้ร่วงจากในเขตเมืองเท่านั้น โดยจะไม่ใช้ใบไม้ที่ร่วงในเขตป่า  เพื่อเป็นการรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ ซึ่งใบไม้ร่วงเหล่านั้นสามารถช่วยสร้างความหลากหลายทางชีวภาพและการก่อตัวของชั้นดิน

ปัจจุบันนี้ Releaf Paper สามารถผลิตถุงกระดาษได้มากกว่า 3 ล้านใบต่อเดือน และแปรรูปใบไม้ร่วงมากกว่า 5,000 ตันต่อปี โดยลูกค้าของ Releaf Paper มีทั้ง LVMH,  ธนาคาร BNP Paribas, Logitech, Samsung และบริษัทใหญ่ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ พวกเขายังวางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการเปิดโรงงานเพิ่มเติมในประเทศอื่นๆ อีกด้วย

“เราอยากขยายแนวคิดนี้ไปทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเรา คือ ผู้คนจากทุกทวีปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการทำกระดาษจากใบไม้ร่วงของเราได้” ผู้บริหาร Releaf Paper กล่าว


อ้างอิง
อินสตาแกรม Releaf Paper
European cities give their dead leaves to this startup to turn them into shopping bags and paper
This startup is using dead leaves to make paper without cutting trees