Skip to main content

 

Libertus Machinus
 

 

 

รู้หรือไม่ ในหลายชาติ "นักโทษ" สามารถ "มีลูก" ทั้งที่อยู่ในคุกได้เพราะ "สิทธิในการรวมรักกับคู่สมรส" เป็นสิทธิมนุษยชน

เนลสัน แมนเดลา อดีตผู้นำแอฟริกาใต้ผู้ได้รางวัลโนเบลสันติภาพ เคยกล่าวไว้อย่างโด่งดังว่า

"เราไม่ควรตัดสินชาติใดเลยจากการที่ชาตินั้น ปฏิบัติกับสมาชิกที่ระดับสูงสุดของชาติ แต่เราควรตัดสินชาติต่างๆ จากการปฏิบัติกับสมาชิกที่ต่ำสุดมากกว่า”

ในบริบทประวัติศาสตร์ แมนเดลา กำลังพูดถึงวันเวลาของตัวเองเกือบ 30 ปีในคุกแอฟริกาใต้ ก่อนจะออกมาเป็นวีรบุรุษและกลายเป็นผู้นำประเทศในที่สุด

แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะอดีตคนคุกที่ได้ขึ้นมาสู่จุดสูงสุดอย่าง แมนเดลา เท่านั้น สำหรับคนจำนวนมาก คุก คือตัวชี้วัดทางสิทธิมนุษยชนที่ดีที่สุดของชาติต่างๆ เพราะเข้าไปดูในคุก เราจะเห็นหมดว่า ชาตินั้นๆ มีความคิดว่าเราควรจะปฏิบัติกับมนุษย์อย่างไร ซึ่งจริงๆ ถ้าใครสนใจชีวิตในคุกทั่วโลก สารคดี Inside the World’s Toughest Prison ที่มีให้ชมทาง Netflix ก็อาจถือว่าเป็น "สารคดีท่องเที่ยว" ที่เรียกว่า แหวกแนวสุดๆ ก็ได้ เพราะพาไปดูคุก


สิทธิการเข้าเยี่ยมของคู่สมรสนักโทษ

 

ถ้าใครเคยได้ชม เรื่องที่ชวนช็อคที่สุดสำหรับชาวไทย อาจไม่ใช่ความดีเลิศของคุกแสกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาได้จากพวก "รัฐสวัสดิการ" แต่กลับเป็น "สิทธิ" อันประหลาดของผู้ต้องขังที่พบทั่วไปในคุกของหลายๆ ชาติที่ดูยากจนกว่าไทย เพราะไม่ว่าจะเป็นคุกในชาติเป็นแถบลาตินอเมริกาและคุกในยุโรปตะวันออก คู่สมรสของผู้ต้องขัง มีสิทธิ์ในการเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นส่วนตัวในระยะเวลาที่ยาวนานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์กันได้ ซึ่งหลายๆ เรือนจำก็จะมีการจัด "ที่ส่วนตัว" ให้ผู้ต้องขังด้วยสำหรับกิจกรรมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกระท่อมเล็กๆ หรือห้องพักที่ดูเหมือนอพาร์ตเมนต์

และนี่คือสิทธิ์ในการ "เข้าเยี่ยมของคู่สมรส" (Conjugal Visit) ที่เราอยากจะพูดถึง

“ผู้ต้องขังมีสิทธิ์จะมีเซ็กส์ด้วยเหรอ?” นี่อาจเป็นคำถามของสังคม เพราะในโลกนี้ฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับสิทธิแบบนี้ก็จะบอกว่า ผู้ต้องขังไม่ควรจะมีสิทธิมีเซ็กส์ เพราะนี่คือคุก ไม่ใช่โรงแรม ผู้ต้องขังต้องเข้ามาเพื่อสำนึกผิด ไม่ใช่ตอบสนองความต้องการทางเพศตัวเอง

อย่างไรก็ดี ฝั่งที่เห็นด้วยก็บอกว่า ผู้ต้องขังควรจะมีสิทธิในการร่วมรักกับคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเราไม่สามารถยุติแรงขับทางเพศของผู้ต้องขังในวัยเจริญพันธุ์ได้อยู่แล้ว หรือถ้าเราไปห้ามผู้ต้องขังร่วมเพศกับภรรยา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ต้องขังจะร่วมเพศกันเองและเกิดจักรวาลพฤติกรรมรักร่วมเพศในคุกอันโด่งดัง ซึ่งก็ไม่มีเรือนจำไหนอยากให้มีเรื่องพวกนี้

ดังนั้น การสร้างสถาบันการร่วมเพศให้ผู้ต้องขังอย่างเป็นกิจลักษณะจึงเป็นสิ่งที่สมเหตุผลกว่า ซึ่งเหนือไปกว่านั้น ถ้าเป็นนักอาชญวิทยาก็จะเชื่อว่า การให้ผู้ต้องขังมีสายสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวที่อยู่นอกคุก มันจะช่วยให้ผู้ต้องขังตั้งใจกลับเป็น "คนดีของสังคม" และหลีกเลี่ยงการกระทำผิดให้ต้องกลับมานอนคุกอีก และนี่เป็นภารกิจสำคัญที่คุกควรจะทำให้สำเร็จในช่วงเวลาของการคุมขัง

แน่นอน แต่ละชาติมีข้อถกเถียงต่างกันไปว่าสิทธินี้ควรมีหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ สิทธินี้เป็นปกติมากๆ ไม่ใช่แค่ในชาติยุโรปเหนือ แต่พวกชาติกำลังพัฒนาในยุโรปตะวันออก และลาตินอเมริกาก็มีสิทธิแบบนี้ทั่วไป

ที่อาจช็อคไปกว่านั้นก็คือ ผู้ต้องขังในชาติที่มีภาพลักษณ์ของคุกว่าโหดอมหิตอย่าง รัสเซีย ก็ได้รับสิทธินี้เช่นกัน หรือในเอเชียเอง อิสราเอล ตุรกี อินเดีย หรือกระทั่งซาอุดิอาระเบียก็มีสิทธิแบบนี้สำหรับผู้ต้องขัง

ลักษณะของสิทธินี้ไม่มีความ "สากล" เพราะมันมีความหลากหลายมาก มีตั้งแต่ระบบให้มี "วันครอบครัว" คุกในทวีปอเมริกา บางประเทศ ครอบครัวผู้ต้องขังจะเข้ามาในคุกและใช้เวลาส่วนตัวทำอะไรกับผู้ต้องขังตรงไหนก็ได้ของคุก "ทุกวันอาทิตย์" ไปถึงระบบให้คู่สมรสเข้าเยี่ยม "ในห้องส่วนตัว" ที่เป็นส่วนตัวจริงๆ ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้าเยี่ยมของคู่สมรสในยุโรป โดยช่วงเวลาในการเข้าเยี่ยมก็อาจมีตั้งได้แต่ 2 ชั่วโมงถึง 72 ชั่วโมง ความถี่ที่เข้าเยี่ยมได้ก็มีตั้งแต่เดือนละครั้งถึง 2 เดือนครั้ง

เงื่อนไขอื่นๆ ก็อาจมีเช่นการจำกัดเวลาขั้นต่ำว่าต้องติดคุกหรือแต่งงานกันมามานานเท่าไหนๆ ถึงจะได้รับสิทธิ์นี้ บางชาติก็อนุญาติให้คู่สมรสเพศเดียวกันเข้าเยี่ยมแบบนี้ได้ หรือถ้าจะเอาเกร็ดที่มันส์กว่านั้น คุกซาอุดิอาระเบียนี่ ผู้ต้องขังที่มีภรรยาเกิน 1 คนก็สามารถมี "การเข้าเยี่ยมของคู่สมรส" ได้ถึง 2 ครั้งต่อเดือน โดยแต่ละครั้งต้องเป็นภรรยาคนละคน เป็นต้น

สำหรับขาวไทยหลายคน นี่อาจเป็นข้อเท็จจริงที่น่าตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยรู้ว่ามีบนโลกมาก่อน ซึ่งถ้าสงสังว่าทำไมเป็นแบบนั้น คำตอบเร็วๆ ก็คือ เพราะชาติที่ชาวไทยเรารับวัฒนธรรมมาเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น (หรือกระทั่งเกาหลีใต้) มันแทบไม่มีแนวคิดเรื่องสิทธิแบบนี้อยู่ ดังนั้น เราก็จะไม่เห็นเรื่องราวของการ "เข้าเยี่ยมของคู่สมรส" จากป็อปคัลเจอร์ในประเทศเหล่านี้เท่าไร

เคสอเมริกาคือหนักเลย เพราะในอดีตเคยมีสิทธิแบบนี้ แต่ก็ถูกทยอยยกเลิกไปเกือบหมด ปัจจุบันคือเหลือทำได้แค่ 4 รัฐในบางเรือนจำในระดับรัฐเท่านั้น พวกเรือนจำรัฐบาลกลางสหรับอาชญากรรมร้ายแรงนี่ห้ามเด็ดขาด


คุกควรเป็นนรก เพื่อทำให้คนเกรงกลัว?

 

สังคมอนุรักษ์นิยมอย่างอเมริกา จริงๆ ก็คิดไม่ได้ต่างจากไทยไทยว่า คุกควรจะเป็นนรกให้คนเกรงกลัวการกระทำผิด ดังนั้น ผู้ต้องขังไม่ควรจะมีสิทธิร่วมรักกับภรรยาในนรกแห่งนี้ ซึ่งในความเป็นสหรัฐอเมริกาที่สัดส่วนประชากรในคุกจำนวนมหาศาลเป็นคนดำ

การมีสิทธิ์แบบนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนให้ยิ่งทำให้เกิดเกิด "ซิงเกิ้ลมัมคนดำ" เพิ่มขึ้นในสังคม และนั่นคือสิ่งที่สังคมอเมริกันไม่ต้องการมากๆ มาช้านาน เนื่องจากมีสถิติชัดเจนว่าลูกของประชากรกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะโตขึ้นเป็นอาชญากร หรือพูดง่ายๆ ก็คือ สังคมอเมริกันไม่ต้องการสนับสนุนให้ผู้ชายคนดำในคุกเป็นพ่อคน เพราะลูกคนเหล่านี้โตขึ้นก็มักจะเป็นอาชญากรเหมือนพ่อนั่นเอง โดยความคิดพวกนี้ไม่ใช่ความคิดเหยียดผิวลอยๆ แต่มันมีสถิติหลายสิบปีสนับสนุนอยู่

ใดๆ ก็ตามแต่ ถึงมหาอำนาจอย่างอเมริกาจะไม่สนับสนุนการให้คู่สมรสเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในคุก ข้อถกเถียงว่าคุกควรจะอนุญาตให้คู่สมรสของผู้ต้องขังเข้าไปร่วมรักกับผู้ต้องขังได้หรือไม่ ก็ดำเนินต่อไปในโลก และเหตุผลที่แข็งแรงที่สุดในการมีนโยบายนี้ อาจไม่ใช่เรื่องของสิทธิมนุษยชนเท่ากับการที่มันเป็นเทคนิคทางนโยบาย ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ต้องขังมีสายสัมพันธ์และความผูกพันกับโลกภายนอก จนมีความมุ่งมั่นจะเป็นพลเมืองดีประพฤติตัวอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ต้องกลับมานอนคุกอีก

ซึ่งก็แน่นอนว่า "อัตราความผิดซ้ำ" ที่ต่ำก็เป็นตัวชี้วัดสำคัญด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานของคุกต่างๆ และในความเป็นจริงการมีนโยบายให้มี "การเข้าเยี่ยมของคู่สมรส" ได้ก็ถือเป็นนโยบายที่มีต้นทุนต่ำมาก ดังนั้น ไปๆ มาๆ เรือนจำอาจสนับสนุนนโยบายนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่ามันเป็นมาตรการต้นทุนต่ำที่ส่งผลดีต่อตัวชี้วัดเท่านั้นเอง


อ้างอิง
Even Saudi Arabia allows prisoners to receive conjugal visits
Sex in prisons to be studied by Howard League
Conjugal visit
Conjugal visit: an emerging human right
Conjugal visits
Conjugal Visits: Costly And Perpetuate Single Parenting?
The Dark Origins of Conjugal Visits
 

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน