Skip to main content

การเดินเท้าเที่ยวเมืองรูปแบบใหม่ในสหราชอาณาจักร เปิดโอกาสให้ ‘อดีตคนไร้บ้าน’ มาแบ่งปันมุมมอง เป็นทั้งการสร้างงานและมอบชีวิตใหม่ให้กับคนไร้บ้าน ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึงด้านต่างๆ ของเมืองที่ถูกซุกซ่อน จน ‘คนนอก’ หรือแม้แต่ ‘คนใน’ ก็ไม่เคยได้รู้หรือไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

‘ไมล์’ ทนทุกข์ทรมาณจากโรคสุราเรื้อรังมานานกว่า 10 ปี จนหน้าที่การงานและครอบครัวพังทลายลงต่อหน้า ส่งผลให้ต้องออกมาระเหเร่ร่อน ก่อนตัดสินใจเข้ารักษาที่สู่ศูนย์บำบัดผู้ป่วยโรคสุราเรื้อรังในปี 2019 และที่นั่นเองทำให้เขาได้พบชีวิตใหม่ ในฐานะ “ไกด์นำเที่ยว” ซึ่งไมล์สามารถนำประสบการณ์เมื่อครั้งที่เขาเป็นคนไร้บ้าน มาบอกเล่าต่อนักท่องเที่ยวผ่านการนำเดินเที่ยวเมือง ภายใต้โครงการของ Invisible Cities

 

ภาพจาก invisible-cities.org

 

Invisible Citiess จัดตั้งขึ้นในปี 2016 เป็นองค์กรจัดอบรมคนไร้บ้านจำนวน 118 คน ให้เป็นไกด์นำเที่ยวในเมือง ถือเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ในการช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนไร้บ้าน เพราะไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับบรรดาคนไร้บ้าน  แต่ยังมอบเป้าหมายในชีวิต และทักษะในการทำงานที่จะสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

“งานนี้ช่วยเติมเต็มชีวิตให้กับผม มันเป็นโอกาสแรกที่ช่วยให้ผมกลับไปสู่เส้นทางชีวิต ‘ปกติ’ และมีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง” ไมล์กล่าว

 

ไมล์ นำนักท่องเที่ยวเที่ยวชมเมือง (ภาพจาก invisible-cities.org)

 

ภาพจาก invisible-cities.org

 

การเดินเที่ยวในแบบของ Invisible Cities นั้นแตกต่างจากทัวร์อื่นๆ ทั่วไป พวกเขาเชี่ยวชาญในหัวข้อที่ไม่ซ้ำใคร และบอกเล่าเรื่องราวของเมืองในสหราชอาณาจักรที่หาฟังจากคณะทัวร์ของบริษัทอื่นไม่ได้ เช่น เรื่องราวประวัติศาสตร์ LGBTQI ของเมือง เรื่องราวของผู้หญิงที่มีชื่อเสียง วัฒนธรรมการประท้วง เชื่อมโยงกับเรื่องเล่าเวทมนตร์คุณไสย หรือการเกิดขึ้นของอาชญากรรมและการลงโทษ เป็นต้น

Invisible Cities จะฝึกอบรมไกด์นำเที่ยวเพื่อสร้างให้เป็น “ทัวร์ทางเลือก” โดยจะฝึกฝนทั้งทักษะการพูดในที่สาธารณะ รวมไปถึงการบริการลูกค้า องค์กรจะทำหน้าที่รับผิดชอบในการทำการตลาดและรับจองทัวร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเงินประมาณ 15 ปอนด์ และเงินจำนวนนี้จะถูกแบ่งให้กับไกด์นำเที่ยวเป็นค่าตอบแทนในการพาชมเมือง

ซาเกีย เกอรี ผู้ก่อตั้ง Invisible Cities มีแนวคิดที่จะช่วยให้คนที่เคยเป็นคนไร้บ้านมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต และสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้ในอนาคต และเพื่อเผยแพร่แนวคิดดังกล่าวไปทั่วประเทศ เกอรีจึงพัฒนา Invisible Cities ให้เป็นรูปแบบแฟรนไชส์พัฒนาสังคม โดยร่วมมือกับองค์กรคนไร้บ้านที่มีอยู่เดิม จากนั้นจึงดำเนินการสรรหาและฝึกอบรมไกด์นำเที่ยว เพื่อทำให้เป็นทัวร์เดินเที่ยวในเมืองที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร!


อ้างอิง
เว็บไซต์ Invisible Cities
On ‘Alternative Walking Tours,’ Formerly Homeless People Share Their Perspectives