Skip to main content

เมืองเทียนจินทางตอนเหนือของจีน มีการสร้างเมืองจำลองเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางสมองของ ‘ผู้สูงอายุ’ ที่ป่วยเป็นโรค ‘อัลไซเมอร์’ ซึ่งผู้สูงอายุจะได้มีการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และได้ใช้ชีวิตปรกติแบบคนทั่วไป เช่น ทำงานที่ร้านกาแฟ เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ไปชอปปิ้ง โดยที่มีโรงหนัง คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านค้า ที่เปิดให้คนภายนอกเข้าไปใช้บริการได้

‘ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพทางปัญญาเหอถง’ (Hetong Cognitive Rehabilitation Center) ตั้งขึ้นเพื่อสร้างชีวิตประจำวันแสนเรียบง่ายให้กับผู้สูงอายุที่มีภาวะความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง โดยภายในพื้นที่ของศูนย์มีการสร้างเมืองจำลองขึ้นมา ประกอบด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงหนัง ร้านค้า และป้ายรถเมล์ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ได้ใช้ชีวิตประจำวันที่ปรกติเหมือนคนทั่วไป

คุณยายหวัง วัย 73 ปี คือ หนึ่งในผู้ป่วยของศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพทางปัญญาเหอถง กิจวัตรประจำวันของคุณยาย คือ การออกมาทำงานเป็นบาริสต้าในร้านคาเฟ่ ไปซื้อข้าวของจำเป็นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และนั่งรอรถเมล์เพื่อกลับบ้าน แม้ภายนอกคุณยายหวังจะดูเหมือนผู้สูงอายุทั่วไป แต่แท้จริงแล้วคุณยายมีภาวะความบกพร่องของสมรรถนะทางสมองอย่างรุนแรง และเธอจดจำใครไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เช่นเดียวกับป้าเฉิน วัย 63 ปี ที่ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ เธอทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟเดินไปมาในร้านอย่างขันแข็ง อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านการฝึกมาอย่างดี แต่ป้าเฉินก็ยังทำผิดพลาดอยู่เสมอ รายการออเดอร์ที่ป้าเฉินจดไว้มักไม่มีใครอ่านออก แถมป้ายังจำเลขโต๊ะที่เธอต้องเอาอาหารไม่เสิร์ฟไม่ได้อีกด้วย และลูกค้าโต๊ะที่กำลังรออาหารจากป้าเฉินอย่างใจเย็น ก็คือลูกสาวของเธอนั่นเอง

ลูกสาวของป้าเฉินเล่าว่า งานใหม่ในร้านอาหารทำให้ป้ามีอาการดีขึ้นมากขึ้นเมื่อเทียบกับตอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งป้าเฉินมักทำหน้าบูดบึ้งและไม่สามารถดูแลตัวเองได้เพราะอาการจากโรคอัลไซเมอร์ เธอบอกว่า การได้เห็นแม่ของตัวเองนำอาหารจานร้อนมาวางบนโต๊ะเหมือนในวัยเยาว์ที่แม่ยังไม่ป่วย ทำให้ภาพความทรงจำของแม่ในใจของลูกสาวหวนกลับมาอีกครั้ง

การสร้างบทบาทสมมติในเมืองจำลองนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยฟื้นฟูและบำบัดผู้สูงอายุที่มีภาวะความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง ซึ่งช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถค้นหาตัวตนผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับคนรอบข้าง ป้องกันการเสื่อมถอยทางสติปัญญา และช่วยพัฒนาร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุเหล่านี้ด้วย

รายงานของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติของจีน ระบุว่า มีคนจีนที่อายุมากกว่า 60 ปี ถึงกว่า 15 ล้านคน มีภาวะความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 22.2 ล้านคนภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม ความตระหนักรู้ของคนในสังคมจีนต่อภาวะความบกพร่องของสมรรถนะทางสมองก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดูได้จากตัวเลขอาสาสมัคร ที่อาสามากินอาหารที่ร้านอาหารของศูนย์ฟื้นฟู และพูดคุยกับเหล่าผู้สูงอายุที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟให้พวกเขา

ช่วงเดือนมิถุนาคม 2023 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนได้เริ่มรณรงค์เพื่อส่งเสริมการป้องกันและการรักษาโรคอัลไซเมอร์ โดยพยายามสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวให้สาธารณชน พร้อมแนะนำให้ผู้สูงอายุใส่ใจสุขภาพสมองของตนเอง

 

อ้างอิง
'Cafe,' 'restaurant' enactment brings solace to cognitively-impaired seniors