ในปีนี้ ชาวกรีกราวครึ่งประเทศไม่สามารถไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาล August holiday ซึ่งเป็นวันหยุดสำคัญได้  เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะค่าเดินทางและค่าที่พักที่แพงขึ้น จนเงินเดือนไม่พอต่อการไปเที่ยวสถานที่สวยงามในประเทศได้เหมือนปีก่อนๆ ที่ผ่านมา

กรีซ เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว แต่ทว่าชาวกรีกจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กลับไม่สามารถมีเงินพอที่จะทำแบบนั้นได้อีกแล้ว ในปี 2024 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศกรีซรวม 36 ล้านคน มากกว่าประชากรกรีซถึงเกือบ 4 เท่า สร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในปีนั้นได้ถึง 21.7 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นจำนวนที่สามารถช่วยลดภาระหนี้สาธารณะก้อนมหึมาของประเทศลงจากระดับ 180% ของจีดีพี ลงมาอยู่ที่ 153.6%

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกรีซ ซึ่งทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 1 ใน 5 แต่ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้ราคาข้าวของต่างๆ พุ่งสูงขึ้น สวนทางกับค่าแรงที่ยังคงหยุดอยู่กับที่ และถูกอัตราเงินเฟ้อแซงหน้า ทำให้ค่าครองชีพแห่พากันสูงขึ้น ชาวกรีกจำนวนหนึ่งที่กันเงินออมไว้ ออกไปเที่ยววันหยุดยาวที่ประเทศในที่ซึ่งค่าครองชีพถูกกว่ากรีซ  

ผลสำรวจในเดือนมิถุนายน 2025 เผยว่า ราคาห้องพักในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พุ่งทะยาน ค่าเดินทางของเรือเฟอร์รี่ไปตามเกาะต่างๆ และราคาอาหารในภัตตาคาร ล้วนเป็นอุปสรรคที่ทำให้การท่องเที่ยวพักผ่อนของชาวกรีกทุกวันนี้แทบเป็นไปไม่ได้

ทาสซอส พาปาโดปัวลอส พนักงานเก็บตั๋วโดยสารเรือเฟอร์รี่บอกว่า ช่วงหน้าร้อนปีที่แล้วยังมีคนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อที่จะขึ้นเรือ แต่ดูเหมือนว่าหน้าร้อนปีนี้ ผู้คนจะไม่เดินทางท่องเที่ยวกันเลย เขาบอกว่า ปีนี้ตั๋วเรือเฟอร์รี่น่าจะขายได้น้อยลงจากปีก่อนราวครึ่งหนึ่ง

“การศึกษาของเราพบว่า คนกรีก 1 ใน 2 คน ไม่สามารถไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนสิงหาคมปีนี้ได้ การไปเที่ยวเกาะต่างๆ กลายเป็นฝันที่ไกลเกินเอื้อมของชาวกรีกจำนวนมากไปแล้ว จะมีสักกี่คนที่สามารถจ่ายเงินค่าตั๋วเรือเฟอร์รี่ในราคา 450 ยูโรไหว ในขณะที่เงินเดือนของตัวเองอยู่ที่ 1,342 ยูโร” มากิส คาโลโฟนอส หัวหน้าที่ปรึกษา สหภาพแรงงานบอก

เช่นเดียวกับ อิสไมนี บาเลเล พนักงานร้านค้าปลีก วัย 28 ปี ซึ่งเรียนจบปริญญาตรี มีรายได้เดือนละ 850 ยูโรบอกว่า ชอบเวลาที่ได้อยู่บนเกาะอามอร์กอส แต่เกาะนี้อยู่ไกลและอิสไมนีไม่สามารถจ่ายค่าห้องพักบนเกาะคืนละ 200 ยูโรได้ ซึ่งเพื่อนๆ ของอิสไมนีต่างก็ล้วนแต่ตกอยู่ในสภาพแบบเดียวกัน

สำนักงานสถิติแห่งยุโรป หรือ Eurostat เผยว่า มีชาวกรีกร้อยละ 46 ที่ไม่มีเงินพอสำหรับการท่องเที่ยวพักร้อนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปด้วยกันถึงร้อยละ 19

“พวกเขาพากันพูดถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ไม่มีตัวชี้วัดถึงผลบวกที่เกิดขึ้นกับประชาชนเลย และผมไม่คิดว่ารัฐบาลจะสนใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่” บาเลเล กล่าว

“ชาวกรีกเริ่มจะเข้าไม่ถึงความเพลิดเพลินใจต่างๆ อย่างการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและศาสนา รายได้ที่ลดลงเรื่อยๆ ทำให้สิ่งที่พวกเขาเคยทำได้ กลายเป็นสิ่งที่พวกเขาเอื้อมไม่ถึง” ศาสตราจารย์ คริสตอส พิเทลิส นักเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และบริการ จากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน กล่าว

ชนชั้นกลางของกรีซ เป็นกลุ่มคนที่ยากลำบากมากที่สุดจากมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล เพราะเศรษฐกิจของประเทศล้มละลาย ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจากประเทศเจ้าหนี้ต่างๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่ง คีริอากอส มิตโซทากิส นายกรัฐมนตรีของกรีซ สัญญาว่า จะลดภาษีและเพิ่มรายได้ให้ประชาชนให้เป็น 1,500 ยูโรต่อเดือนภายในปี 2027

“พวกเราคือ 'ไทยแลนด์แห่งยุโรป' พวกเราเตรียมพร้อมบริการต่างๆ สำหรับให้คนที่อื่นมาใช้อย่างเต็มที่”  อาริส อะพิคิอัน พนักงานร้านขายพรมในเอเธนส์กล่าว

เขาบอกว่า ขณะที่ชาวต่างชาติมาใช้ชีวิตเหมือนฝันที่กรีซ ชาวกรีกเองกลับพบต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก ชาวกรีกที่อยากไปเที่ยวพักผ่อน แต่ก็ไม่มีเงินพอสำหรับการเดินทางไปไหนเลยแม้จะเป็นช่วงวันหยุดก็ตาม ซึ่งนั่นคือชาวกรีกผู้พ่ายแพ้ที่แท้จริง

ที่มา
‘The Thailand of Europe’: foreigners live holiday dreams in Greece but locals priced out