หญิงสาวชาวออสเตรเลีย เล่าประสบการณ์การมาร่วมเป็นสมาชิกของแปลงผักชุมชนที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากจะได้กินพืชผักสดนานาชนิดที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยประหยัดเงิน และดีต่อใจ
เมลานี บาร์นส์ ครูสอนภาษาอังกฤษชาวออสเตรเลีย เธอและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่โตเกียวตั้งแต่ปี 2019 อพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กที่เธอพักอาศัยอยู่ มีพื้นที่เพียงแค่สำหรับกระถางใบน้อยริมระเบียงไว้ปลูกสมุนไพร ทำให้เธอคิดถึงการปลูกพืชผักซึ่งเป็นงานอดิเรกของเธออย่างมาก
เมื่อต้นปี 2025 เธอและครอบครัวย้ายมาอยู่กับเพื่อนที่แปลงสวนผักของชุมชนชานเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นสวนผักขนาดเล็กในย่านคูนิตาชิ ทางตะวันตกของโตเกียว โดยชาวสวนแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงปลูกผักจำนวน 40 แปลง สมาชิกของแปลงผักชุมชนสามารถมาที่สวนเวลาไหนก็ได้ตามความสะดวก
เธอบอกว่า การทำสวนช่วยให้เธอได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ คลายความเครียด และเรียนรู้ทักษะการทำงานต่างๆ นอกจากนี้ ยังทำให้เธอได้กินผักสดๆ ที่เก็บมาจากแปลงปลูก ซึ่งรสชาติอร่อยกว่าผักที่ซื้อตามซูเปอร์มาร์เก็ต
เมลานีใช้แปลงผักร่วมกับอีก 2 ครอบครัว เธอบอกว่า การใช้แปลงผักร่วมกันช่วยลดภาระงานในสวน และช่วยให้มีการแบ่งปันพืชผักที่แต่ละครอบครัวปลูกให้กันและกัน
เมลานีเล่าว่า ในแปลงผักชุมชนที่เธอเป็นสมาชิก มีการปลูกถั่วนานาชนิด หัวไชเท้า มะเขือม่วง หอมใหญ่ มันฝรั่ง ผักกาด พริก แตงกวา ข้าวโพด มะเขือเทศ จำนวนของพืชผักที่เก็บได้แต่ละสัปดาห์มากเกินพอที่จะนำมาแบ่งปันกัน
ช่วงหน้าร้อน ผักต่างๆ จะสุกเร็วมาก เธอจะมาที่แปลงผักสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้งเพื่อเก็บพวกมัน แต่เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน การทำงานในสวนจะลดลงไปมาก และไม่ต้องมาที่แปลงผักบ่อยๆ
แปลงผักของเธอที่มีขนาด 20 ตร.ม. ค่าเช่าตกปีละ 40,000 เยน หรือราว 9 พันบาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าอุปกรณ์เครื่องมือเพาะปลูกต่างๆ และเมล็ดพันธุ์ สำหรับเกษตรกรมือใหม่จะมีคนมาช่วยสอนวิธีปลูกและการดูแลพืชผัก รวมถึงสอนวิธีการเก็บผักในแปลง และช่วยดูแลเรื่องแมลงศัตรูพืชต่างๆ ให้
เมลานีบอกว่า ลูกๆ ของเธอสนุกสนานกับการมาที่แปลงผัก นอกจากจะมีที่ให้วิ่งเล่นแล้ว เด็กๆ ยังช่วยเก็บผัก ไล่จับแมลง และได้กินอาหารสดใหม่จากแปลงผักที่ปลูกเอง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้คนในเมืองหันกลับมาสนใจการทำสวนมากขึ้น และที่แปลงผักของชุมชนที่เมาลานีเข้ามาอยู่นี้ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่ที่บ้านไม่มีพื้นที่สำหรับการปลูกพืชอาหารไว้กินเอง
ในโตเกียว มีแปลงผักชุมชนมากกว่า 300 แห่ง ซึ่งมีทั้งที่เป็นเกษตรอินทรีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นแบบผสมระหว่างการใช้ปุ๋ยเคมีกับปุ๋ยคอก และเปิดรับสมัครสมาชิกปีละ 2 ครั้ง
เมลานีเล่าว่า ที่ใกล้ๆ กันนั้นมีที่ดินส่วนบุคคล ทำเป็นแปลงเพาะปลูกขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนหนึ่งถูกกันไว้สำหรับทำนาปลูกข้าว มันฝรั่ง และหอมใหญ่ สมาชิกจะมารวมตัวกันเดือนละครั้ง เพื่อปลูกหรือเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแปลง และนำมาแบ่งปันกัน
เธอบอกว่า การมาเป็นสมาชิกแปลงผักชุมชน และปลูกพืชผักกินเอง ช่วยให้เธอลดการซื้อผักจากร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง
ที่มา
Learn How To Join A Community Garden in Japan