Skip to main content

พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แบบแลนด์สไลด์ หรือแบบถล่มทลาย ซึ่งก็หวังว่าผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ชาว กทม. ส่วนใหญ่แสดงชัดเจนว่าไม่เลือกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำมาสู่การชนะแบบแลนด์สไลด์ให้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ 

ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายกับคำแก้ตัวแบบซ้ำๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างว่าต้องทำรัฐประหารเข้ามาก็เพราะต้องแก้ไขความวุ่นวายและมาเพื่อให้เกิดความสงบ ทั้งที่คนที่สร้างความวุ่นวายคือคนที่ได้ดิบได้ดีและอยู่รอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนั้นรวมถึงบางคนที่ถูกประชาชนลงโทษให้สอบตกจากผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ด้วย 

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนทนไม่ไหวและรับไม่ได้แล้วกับความเสื่อมถอยทุกด้านของประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจจะชัดเจนที่สุดเพราะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่พิสูจน์ได้ ไม่ใช่แค่วาทกรรม 

การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยที่ต่ำเตี้ยมาตลอด 8 ปีทำให้รายได้ของประชาชนหดหาย หนี้สินล้นทะลัก ทั้งหนี้สินประเทศ หนี้สินภาคครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจ หนี้เสียธนาคาร ตลอดจนหนี้นอกระบบพากันพุ่งกระฉูด และ ยังไม่แนวโน้มที่จะลดลงได้ คนตกงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายล้านคน อีกทั้งคนจนมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีตลอด 8 ปี จนต้องแจกบัตรคนจนมากขึ้นถึง 20 ล้านใบ

ความสามารถแข่งขันของประเทศลดลง ถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้ากันแล้ว เช่น ลาว กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางราง หลังจากรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาวเสร็จ ศูนย์กลางผลิตรถยนต์สมัยใหม่ย้ายไปอินโดนิเซีย ศูนย์กลางผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปอยู่ที่เวียดนาม และไทยกลายเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เพราะไม่มีการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่หรือยูนิคอร์น อีกทั้งความเหลื่อมล้ำของไทยเพิ่มมากขึ้นจนติดอับโลก แล้วรัฐบาลยังปล่อยให้เจ้าสัวผูกขาดควบรวมกิจการ ทั้งการควบรวมแมคโคร-โลตัส และการควบรวม ทรู-ดีแทค รวมถึงการให้คนบางกลุ่มมีอิทธิพลทางธุรกิจพลังงาน ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นในการพัฒนาขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในอนาคต และการคอรัปชั่นที่พุ่งสูงขนาดองค์การระหว่างประเทศยังจัดอันดับทุจริตของไทยแย่ลง 5 ปีติดกัน จากอันดับ 96 ในปี 2560 มาเป็นอันดับ 110 ในปี 2564 

ทางด้านสังคมก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน คนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นทางความคิด ถูกดำเนินคดี และอยากย้ายประเทศเป็นล้านคน ในขณะที่ความเสื่อมถอยทางการเมืองเหมือนย้อนยุค 30 ปี ที่มีสว. 250 คน มาโหวตนายกฯ พรรคการเมืองอ่อนแอมีพรรคเล็กพรรคน้อยมากมายมาต่อรองผลประโยชน์ 

8 ปีที่ผ่านมาปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากความต้องการที่จะรักษาอำนาจของผู้นำ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ นี่เป็นสาเหตุที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าผู้นำต้องไม่อยู่เกิน 8 ปีจากปัญหานี้ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ อย่าดันทุรังอีกเลย ประชาชนได้แสดงความต้องการชัดเจนแล้วว่าอยากเปลี่ยนผู้นำ 

ขอให้มั่นใจได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางการฟื้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนโดยได้เสนอแนวคิดมาตลอดและขอให้มั่นใจได้ว่า “เพื่อไทย เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย”