Skip to main content

นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบาย เจอ แจก จบ  เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19  แต่นโยบายดังกล่าวกลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริงเพราะเจอ แจก จบ แต่ไม่จบจริง 

ทั้งนี้จากนโยบายดังกล่าว จะทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งถูกทอดทิ้ง ซึ่งอาจทำให้โรคโควิดระบาดมากขึ้น เพราะไม่สามารถเข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้งการดูแลอาหารการกิน รัฐบาลโยนภาระให้ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นและผู้แทนราษฏรในพื้นที่ดูแลผู้ติดเชื้อแทน แต่รัฐบาลไม่มีแม้แต่งบประมาณสนับสนุน
   
นพ.สุรวิทย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลใช้นโยบาย เจอ แจก จบ สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดจากการตรวจ ATK ที่อาการน้อย หรือไม่มีอาการ มากักตัว กินยา ที่บ้านหรือ HOME ISOLATION ด้วยการยกเลิกการรักษาผู้ติดโควิดจากการรักษาแบบ 'ฉุกเฉินวิกฤติ' ซึ่งรักษาฟรีได้ทุกโรงพยาบาล ตามโครงการ UCEP มาเป็นรักษาตามสิทธิ เช่น สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม ทำให้รัฐบาลประหยัดรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ส่วนหนึ่ง จะทำให้รัฐบาลลอยตัวจากปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อผู้ติดเชื้อโควิดเข้าสู่ระบบยาก ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับยาและขาดการติดตาม สอบถามอาการป่วย ซึ่งถือว่าผู้ป่วยโควิดถูกทอดทิ้ง ลอยแพจากการเข้าสู่ระบบไม่ได้ เป็นการโยนบาปให้ระบบ Call Center ที่ไม่พร้อม และสถานพยาบาล ที่ปฏิเสธการรับผู้ป่วยเนื่องจากเตียงเต็มต้องรับผิดแทนรัฐบาล และผู้ป่วยบางส่วนเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัด ก็จะทำให้นำเชื้อไประบาดในต่างจังหวัดลามไปทั่วประเทศอีก
     
 “ผลเสียที่ตามมาคือมีการติดเชื้อโควิดกับผู้ใกล้ชิดที่บ้านเพราะไม่สามารถแยกกักตัวได้จริง การระบาดจะรุนแรงมากขึ้นเพราะผู้ติดเชื้อติดต่อเข้าสู่ระบบได้ยาก  ประชาชนถูกทอดทิ้ง  ส่วนผู้ที่เข้าสู่ระบบได้แล้วการกักตัวที่บ้านก็จะเป็นไปได้ยาก ไม่กักตัวจริงจังจึงจะทำให้การระบาดรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้เมื่อเข้ารักษาตามระบบยาก ผู้ป่วยบางส่วนจำเป็นต้องเข้ารักษาตามโรงพยาบาลเอกชนและจะต้องจ่ายเงินเอง เป็นภาระอันหนักของประชาชน รัฐบาลก็ไม่ต้องรับผิดชอบส่วนนี้ต่อไปอีก เป็นผลดีสำหรับรัฐบาลที่สามารถประหยัดงบประมาณ แต่ผลเสียจะเกิดขึ้นกับประชาชน หรือรัฐบาลกำลังลอยแพผู้ป่วยโควิดทั้งประเทศ” นพ.สุรวิทย์ กล่าว