Skip to main content

รัฐบาลกรุงไทเปย้ำว่า ไม่ควรมีการนำประเด็นวิกฤตยูเครนมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีน รวมทั้งควรหยุดพูดว่า "ยูเครนในวันนี้ คือไต้หวันในวันพรุ่งนี้" ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ขณะที่ รายงานสงครามในยูเครนเป็นประเด็นที่ไต้หวันติดตามอยู่อย่างใกล้ชิดเช่นกัน รัฐบาลกรุงไทเปยังคงยืนยันตลอดว่าสถานการณ์ของตนกับยูเครนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

โล ปิง-เชง โฆษกคณะรัฐมนตรีไต้หวันออกแถลงการณ์ที่เน้นย้ำว่า ประชาชนไม่ควรหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ และตกอยู่ในความกลัวเพราะสถานการณ์ในยุโรปตะวันออก และอธิบายว่า ความแตกต่างที่ว่านั้นเป็นเพราะไต้หวันไม่ได้มีเพียงความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ช่องแคบไต้หวันยังทำหน้าที่เป็นเหมือนแนวกั้นที่แยกตนออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่ไต้หวันเองได้รับการยอมรับว่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมไฮเทคโลกด้วย ด้วยเหตุนี้ “ทั้งสองกรณีจึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้”

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน และนายกรัฐมนตรี ซู่ เสิง-ชาง ต่างออกมาประกาศย้ำกับกระทรวงและหน่วยงานรัฐทั้งหลายให้เร่งพยายามหาทางรับมือกับ "แรงอัดจากภายนอกที่ใช้กรณีความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย เพื่อทำสงครามด้านกระบวนความคิด (cognitive warfare) ต่อไต้หวัน"

นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครนมา ไต้หวันไม่ได้ตรวจพบการเคลื่อนไหวทางทหารจีน แต่ได้สั่งการให้มีการระวังภัยเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (28 ก.พ.) ไต้หวันรายงานว่า เครื่องบินจีนจำนวน 7 ลำบินเข้ามาในเขตป้องกันทางอากาศของตน แต่ไม่ได้เข้าใกล้เกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นบริเวณที่รัฐบาลไทเปเรียกว่าเป็นพื้นที่ปฏิบัติการสงคราม 'โซนสีเทา' ของจีน ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะก่อกวนจนกองทัพไต้หวันอ่อนล้าลง

ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนเองกล่าวว่า ปัญหาของยูเครนกับไต้หวันนั้นไม่เหมือนกัน เพราะไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีนอยู่แล้ว

ที่มา : รัฐบาลไทเป ย้ำ ไม่ควรเปรียบเทียบวิกฤตยูเครนกับสถานการณ์ไต้หวัน-จีน