Skip to main content

คืนวานนี้ เวลาประมาณ 21.40 น. ตามเวลาประเทศไทย แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงไทเป ไต้หวัน โดยมีคณะผู้แทนรัฐบาลไต้หวันรอให้การต้อนรับ โดยการเยือนครั้งนี้ เพโลซี ได้ทวีตข้อความว่า เป็นการตอกย้ำถึงคำยึดมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวัน และบอกด้วยว่า การแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของอเมริกาและประชาชนไต้หวัน 23 ล้านคน เป็นสิ่งสำคัญในเวลานี้ยิ่งกว่าที่เคยผ่านมา ในขณะที่โลกเผชิญทางเลือกระหว่างอัตตาธิปไตยและประชาธิปไตย

ขณะที่วันนี้ (3 ส.ค.) ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน แถลงที่ทำเนียบประธานาธิบดีหลังจากให้การต้อนรับแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ว่า ไต้หวันจะไม่ยอมถอยในขณะที่กำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างจงใจ จะยืนหยัดยึดมั่นในอธิปไตยและเดินหน้ายึดมั่นในจุดยืนเรื่องการปกป้องประชาธิปไตย ขณะเดียวกันไต้หวันปรารถนาที่จะร่วมมือและทำงานอย่างเป็นเอกภาพกับประชาธิปไตยทุกแห่งทั่วโลกเพื่อร่วมกันปกป้องคุณค่าประชาธิปไตย และมุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน และจะทำให้ไต้หวันเป็นกองกำลังรักษาเสถียรภาพสำคัญให้แก่ความมั่นคงในภูมิภาคและการพัฒนาการค้าโลก

นอกจากนี้ ไช่ อิง เหวิน ยังขอบคุณเพโลซีที่แสดงออกถึงนโยบายที่มั่นคงของสหรัฐฯ เรื่องการสนับสนุนการปกป้องตนเองของไต้หวัน และยกย่องเพโลซีว่า เป็นมิตรที่ทุ่มเทมากที่สุดคนหนึ่งของไต้หวัน จากนั้นปิดท้ายการแถลงว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้และไว้ใจได้ของสหรัฐฯ สภานิติบัญญัติไต้หวันจะเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลไต้หวันจะเสริมสร้างความร่วมมือในหลายด้าน เช่น ความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างผู้มีพรสวรรค์ และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน

ส่วนกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ประกาศจะใช้ปฏิบัติการทางทหารแบบเจาะจงเป้าหมายเพื่อตอบโต้ในเรื่องนี้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติกับบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเด็ดเดี่ยว และเพื่อขัดขวางการแทรกแซงจากภายนอกกับความพยายามเรียกร้องเอกราชไต้หวันของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ขณะที่กองบัญชาการตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เริ่มการฝึกซ้อมทางทหารร่วม ทั้งทางอากาศและทางทะเล ในพื้นที่ทางเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และจะทดสอบยิงขีปนาวุธในทะเลทางตะวันออก กับทดสอบยิงกระสุนจริงพิสัยไกลในช่องแคบไต้หวันด้วย

 

ปฏิกริยาพันธมิตรของจีน 'เกาหลีเหนือ-รัสเซีย' ต่อการเยือนไต้หวันของสหรัฐฯ

ขณะที่รัสเซีย ยังออกมากล่าวสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ โดยโฆษกเครมลิน ดมิทรี เพลคอฟ บอกว่า ทุกอย่างเกี่ยวกับการเยือนเอเชียและไต้หวันครั้งนี้ คือการจงใจยั่วยุ และจะยิ่งทำให้สหรัฐฯ เข้าสู่การเผชิญหน้ากับจีนมากยิ่งขึ้น

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวว่า "การเยือนไต้หวันคือความพยายามของกรุงวอชิงตันที่ต้องการยั่วยุเพื่อกดดันจีนซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของรัสเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" และว่า "รัสเซียขอยืนยันตามหลักการ 'จีนเดียว' และขอต่อต้านการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวันทุกรูปแบบ"

สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า การเยือนของเพโลซีกำลังทำให้ประชาคมโลกเกิดความกังวลอย่างยิ่ง สถานการณ์ขณะนี้แสดงให้เห็นชัดเจนเรื่องสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นอย่างอวดดี แท้จริงแล้วการจงใจยั่วยุทางการเมืองและทางการทหารของสหรัฐฯ คือรากเหง้าของปัญหาที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือยังได้แสดงความสนับสนุนจีนด้วยการย้ำว่า ประเด็นไต้หวันเป็นเรื่องภายในของจีน

 

สถานทูตฯ จีนในไทยตอบคำถามสื่อ

ส่วนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความตอบคำถามสื่อมวลชนสำหรับการเยือนไต้หวันของแนนซีว่า จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค การมาเยือนของเพโลซี ครั้งนี้ถือเป็นการกระทำทางการเมืองที่ยั่วยุรุนแรงในการยกระดับการไปมาหาสู่กันอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน และเป็นการสนับสนุนต่อกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน

โดยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสหรัฐฯ ที่เพล่นไพ่ไต้หวันนั้น คือการใช้ไต้หวันในการควบคุมและกดขี่จีนชะลอการพัฒนาของจีน รักษาสถานะความเป็นเจ้าของตนเองและผลักดันความเป็นอำนาจบาตรใหญ่ ส่วนท่าทีของจีนนั้น ทางเพจสถานทูตฯ บอกว่า การเยือนไต้หวันของสหรัฐฯ ครั้งนี้ฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้ง 3 ฉบับ อย่างร้ายแรง โดยจีนคัดค้านอย่างเด็ดขาดและขอประณามอย่างรุนแรง รัฐบาลและประชาชนจีนได้ใช้มาตรการที่เด็ดขาดและทรงพลังแล้ว และจะยังคงดำเนินการต่อไป เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดนอย่างแน่วแน่ ทางสหรัฐฯ และกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมด

ด้าน จีนกับไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี ค.ศ. 1975 เป็นต้นมา ฝ่ายไทยยึดมั่นในหลักการจีนเดียวมาโดยตลอด ซึ่งได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนในเอกสารสำคัญๆ หลายฉบับ ฝ่ายจีนเชื่อว่า ประเทศไทยในฐานะที่เป็นมิตรประเทศของจีน จะยึดมั่นในความเที่ยงธรรมและความเป็นธรรมของหลักสากล สนับสนุนความพยายามของจีนในการปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดน สนับสนุนภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการรวมประเทศจีนเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับฝ่ายจีนในการพิทักษ์รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและของภูมิภาค

 

ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

วีโอเอไทย รายงานความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ต่อการเยือนไต้หวันของเพโลซี เริ่มจากอแมนดา เซียว นักวิเคราะห์อาวุโสประจำไต้หวัน จาก International Crisis Group สถาบันคลังสมองด้านวิกฤตการณ์ระดับโลก ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า “เราได้เห็นข้อความที่ชัดเจนจากรัฐบาลปักกิ่งที่ต้องการตอบโต้อย่างรุนแรงหากการเดินทางเยือนไต้หวันเกิดขึ้นจริง และคิดว่าสัญญาณต่างๆ เหล่านั้นควรได้รับความใส่ใจอย่างยิ่งยวด” และคาดว่าจะมีกิจกรรมทางการทหารของจีนรอบๆ ไต้หวัน “ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ทั้งในช่วงระหว่างและหลังจากการเยือนไต้หวันของประธานสภาล่างสหรัฐฯ โดยที่ผ่านมา จีนได้ส่งเครื่องบินรบจำนวนมากเข้าไปยังบริเวณเขตระบุแจ้งเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศ (Taiwan’s Air Defense Identification Zone) ของไต้หวันในช่วงไม่กี่เดือนมานี้

นิวท์ กิงกริช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอภาคภาษาจีนกลาง แสดงการสนับสนุนภารกิจเยือนไต้หวันของส.ส.เพโลซี และว่าการเยือนไต้หวันของประธานสภาล่างสหรัฐฯ จะสร้าง “ความระคายเคือง” ให้กับความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีน “ในระดับหนึ่ง”

แต่ในมุมมองนักวิเคราะห์หลายราย ได้เตือนว่า จีนมีความแข็งแกร่งและก้าวร้าวขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1990 เมื่อเทียบกับยุคที่อดีตประธานสภาล่างกิงกริชไปเยือนกรุงไทเปในตอนนั้นมาก

เซียว นักวิเคราะห์อาวุโส แห่ง International Crisis Group ระบุว่า จีนที่เรากำลังรับมืออยู่ในตอนนี้ ภายใต้การนำของ (ประธานาธิบดี) สี จิ้นผิง มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน และน่ากังวลมากกว่าในอดีต

อีกปัจจัยหนึ่ง คือ การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ประธานาธิบดีสีเตรียมรักษาตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สาม ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าการประชุมใหญ่ดังกล่าวจะกระทบต่อท่าทีของจีนต่อไต้หวันอย่างไร

ในทัศนะของเซียว เห็นว่า ในที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน อาจต้องการรักษาเสถียรภาพในประเด็นภายนอกในช่วงการเปลี่ยนผ่านสำคัญนี้ แต่อีกด้านหนึ่ง เพราะการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงก่อนการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 บทบาทผู้นำของสี จิ้นผิง จึงถูกกดดันให้แสดงบทบาทว่าจีนนั้นจะไม่มีทางถูกเอาเปรียบได้

มุมมองของวิลเลียม หยาง ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งไต้หวัน ให้ทัศนะกับวีโอเอด้วยว่า สำหรับไต้หวันแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกโล่งใจที่ประธานสภาล่างสหรัฐฯ เดินหน้าตามแผนเยือนไต้หวัน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นการแสดงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการรักษาความสงบสุขบริเวณช่องแคบไต้หวัน แต่อีกด้านหนึ่ง มีชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งที่ยังกังขาเกี่ยวกับแรงจูงใจ เป้าหมาย และผลกระทบที่ตามมาจากการเยือนไต้หวันของเพโลซีในครั้งนี้ ชาวไต้หวันจำนวนมากยังคงตั้งคำถามว่าประเด็นนี้จะเร่งให้เกิดความขุ่นเคืองกับจีน และกดดันให้จีนใช้มาตรการที่ไร้เหตุผลกับไต้หวัน โดยเฉพาะในช่วงที่รัสเซียรุกรานยูเครน