'คิชิดะ ฟูมิโอะ' นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดการเดินทางเยือนอาเซียน 3 ประเทศ โดยเยือนอินโดนีเซียวันที่ 29-30 เม.ย.2565 เยือนเวียดนามวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.2565 และเยือนไทยวันที่ 1-2 พ.ค.2565 ซึ่งทั้ง 3 ประเทศถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของญี่ปุ่น
มาดูกันว่าแต่ละประเทศเขาตกลงอะไรกันบ้าง
สิ่งที่เหมือนกันในการมาเยือนของผู้นำญี่ปุ่นที่ได้พูดคุยกับผู้นำทั้ง 3 ประเทศคือ การหารือ และโน้มน้าวให้แสดงท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับสงครามยูเครน แต่ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ คือ
ระหว่างไทย รอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟุมิโอะ คิชิดะ และนายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมประกาศข้อตกลงด้านการทหารฉบับใหม่ในวันจันทร์ รวมทั้งแผนยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสองประเทศ ทั้งยังมีข้อตกลงอื่นๆ อีก เช่น ด้านความมั่นคงอาชญากรรมไซเบอร์, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, ด้านพลังงาน และการค้าระหว่างกัน อีกทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นยังขยายเงินกู้ 13,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนโครงการรับมือการระบาดโควิด
ระหว่างอินโดนีเซีย นั้นนอกจากหารือเรื่องสงครามยูเครนกับความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ยังมีการเปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศยังหารือกันถึงความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด และญี่ปุ่นยังให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบรางบนเกาะชวาอีกด้วย
ระหว่างเวียดนาม มีการตกลงเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจของทั้ง 2 ชาติ กลับมาฟื้นฟูอย่างชัดเจนหลังการระบาดโควิด ด้านเวียดนามมีแผนส่งออกลำไยไปยังประเทศญี่ปุ่นที่กำลังจะเริ่มในเดือน ก.ย. 2565 ส่วนญี่ปุ่นเองก็ช่วยเวียดนามเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงาน เพื่อให้เวียดนามใช้แหล่งพลังงานอื่น เช่น ชีวมวล ไฮโดรเจน และแอมโมเนียในเวียดนาม ที่มุ่งมั่นจะทำให้ประเทศเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593
ที่มา
- ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินการร่วมกับเวียดนามต่อกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
- ผู้นำญี่ปุ่นและผู้นำอินโดนีเซียหารือกันเกี่ยวกับวิกฤติยูเครน
- นายกฯ ญี่ปุ่นประกาศข้อตกลงด้านการทหารกับไทย ระหว่างเยือนเอเชีย 3 ประเทศ
- ผู้นำญี่ปุ่นเยือนเวียดนามกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว