ประชุมร่วมรัฐสภาฝ่ายค้านชงแบ่งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์เดียวกัน ด้าน ฝ่าย รบ. เสนอคนละเบอร์ ขณะที่ “ชวน” โดดป้องสภา กรีด ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าในอดีต
ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 4 ฉบับ และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จำนวน 6 ฉบับ โดยที่ประชุมเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเลือกตั้งส.ส. เป็นลำดับแรก
อนุชา นาคาศัย รองนายกรัฐมนตรี เสนอหลักการและเหตุผลในนามคณะรัฐมนตรี (ครม.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอในนามฝ่ายค้าน วิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอในนามพรรคฝ่ายรัฐบาล และ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เสนอในนามพรรคก้าวไกล
นพ.ชลน่าน กล่าวตอนหนึ่งว่า แนวคิดที่จะใช้เบอร์ผู้สมัครส.ส.และเบอร์พรรค เป็นแบบคนละเบอร์นั้น จะทำให้เกิดการจูงใจให้อามิสสินจ้าง เจตนารมณ์ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่การจะกำหนดให้หมายเลขพรรคและผู้สมัครแตกต่างกันนั้นเท่ากับไปสร้างความสับสนให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง อีกทั้งยังเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย อยากถามว่าการกำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่หมายเลขพรรคกับผู้สมัครไม่เหมือนกัน เจตจำนงคืออะไร
วิเชียร ชวลิต กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า การกำหนดให้ผู้สมัครและพรรคเป็นคนละหมายเลข เพราะเชื่อในวิจารณญาณของประชาชน เชื่อว่าประชาชนมีความสามารถเลือกพรรคและผู้สมัครส.ส.ที่ตัวเองชื่นชอบ การกล่างอ้างว่าอาจทำให้ประชาชนสับสนนั้น หมายความว่ากำลังมองประชาชนไม่มีสามารถในการวินิจฉัย ซึ่งตนไม่เชื่อเช่นนั้น
ด้าน ปดิพัทธ์ กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยกับวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของฝ่ายรัฐบาล นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล ขอนำเสนอ ให้ผู้สมัครแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคเดียวกันต้องเบอร์เดียวกัน เพื่อความเรียบง่าย อยากถามว่าการเสนอแบบเบอร์เดียวกันมีปัญหาอะไร ทำไมบางฝ่ายจึงอยากได้เป็นแบบคนละเบอร์ นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องเปิดเผยผลคะแนนดิบรายหน่วยสู่สาธารณะโดยไม่ต้องร้องขอ และให้มีการสังเกตการณ์เลือกตั้งได้ เพื่อความโปร่งใส และผู้จัดการเลือกตั้ง ต้องรับผิดชอบแก้ปัญหาบัตรเขย่ง แก้เรื่องคะแนนนอกราชอาณาจักร และมีความรับผิดชอบ ซึ่งพรรคเห็นว่าข้อผิดพลาดเรื่องการขนส่งเหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้คะแนนของประชาชนตกหล่นได้ สุดท้าย สภาต้องเข้มแข็งด้วยการแก้ไขปัญหา ส.ส.ปัดเศษ โดยการกำหนดให้มีคะแนนขั้นต่ำ เนื่องจากสภาชุดปัจจุบันมีส.ส.ปัดเศษที่รวมตัวกันเพื่อต่อรองทางการเมือง อีกทั้งมีอำนาจในการต่อรองทำให้สภาล่มได้
จากนั้น ชวน ได้ชี้แจงก่อนเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายว่า ตนขอปกป้องสภาในฐานะที่อยู่ในสภามาหลายสมัย เห็นเหตุการณ์มา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชุดปัจจุบันไม่ได้เลวร้ายไปกว่าในสมัยก่อน ปัญหาเรื่ององค์ประชุมมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ดูจากผลงานแล้วก็ขอชื่นชมสมาชิกที่ให้ความร่วมมือ เราพูดได้ว่ากฎหมายรัฐบาลไม่ได้ค้างเลยแม้แต่ฉบับเดียว ซึ่งเราต้องช่วยกันประคับประคอง