'เพื่อไทย' ห่วงโควิดรอบนี้ระบาดหนัก 'ประยุทธ์' เอาไม่อยู่ หวั่นหนังรันทดคนตายข้างถนนฉายภาพซ้ำ แนะเร่งหาวัคซีนกันโอมิครอนด่วน
ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 18,000 คนต่อวันอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว สัดส่วนการพบเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 13% ในสัปดาห์ก่อนมาเป็น 20% ในสัปดาห์นี้ แต่การเตรียมการของรัฐล่าช้า ไม่ทันการณ์ วิ่งไล่ตามปัญหามาโดยตลอด การเตรียมการรองรับการระบาดยังเต็มไปด้วยความสับสนกันเองในภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่เหมาะสมและเท่าทันสถานการณ์ในหลายด้าน ดังนี้
1.การประเมินสถานการณ์ของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ที่ระบุว่า ผู้ติดเชื้อจะสูงสุดในช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่งจะส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงโรงพยาบาลของรัฐให้เตรียมเตียงรองรับการระบาดหนัก ทั้งที่สถานการณ์การระบาดเริ่มหนักขึ้นมานับเดือนแล้ว
2. หนังรันทดเริ่มกลับมาฉายภาพวนซ้ำ เริ่มปรากฏภาพประชาชนออกมานอนรอข้างถนน เพราะไม่มีสถานที่รักษาตัว โรงพยาบาลรัฐ ศูนย์พักคอย โรงพยาบาลสนามหลายพื้นที่ทั่วประเทศเตียงเต็มมาระยะหนึ่งแล้ว บุคลากรทางการแพทย์เริ่มติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว
3.ในเวลาเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขลงนามในประกาศยกเลิกการกำหนดให้ผู้ติดโควิดเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน (UCEP) มาเป็นโรคที่ให้การรักษาฟรีตามสิทธิตามหลักประกันสุขภาพของแต่ละคน มีผลวันที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งผู้ป่วยระดับเหลือง-แดง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาของแต่ละคนเท่านั้น สวนทางกับสถานการณ์จริงในขณะนี้ที่เตียงของโรงพยาบาลรัฐเต็ม เท่ากับว่าประชาชนจะต้องกลับไปดูแลตัวเอง หรือเสียค่าใช้จ่ายเองหากต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ประชาชนผู้ไม่มีรายได้หรือรายได้น้อยต้องไปกองอยู่รวมกันเหมือนในยุคการรักษาโควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่โควิด-19 เข้ามาใหม่ๆ คำถามคือพล.อ.ประยุทธ์กำลังลอยแพประชาชนอีกครั้งหรือไม่
4.มาตรการ test & go ที่ให้ผู้เข้าประเทศตรวจ RT - PCR วันแรก รอผล 12 ชั่วโมง หากไม่พบให้ออกไปดำเนินชีวิตตามปกติแล้วกลับมาตรวจซ้ำในวันที่ 5 ของวันที่อยู่ไทย เป็นมาตรการที่หละหลวม สร้างความเสี่ยงให้กับผู้ใกล้ชิดเป็นอย่างมาก หากในระหว่างรอการตรวจครั้งที่สองมีการติดเชื้อ อาจเป็นผู้แพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว หากการตรวจครั้งที่ 2 ยืนยันว่าติดเชื้อ ยังต้องใช้เวลา 1 วันกว่าจะเข้าระบบการรักษาของรัฐได้ เพราะโรงแรมไม่ใช่สถานที่กักตัว
ตรีชฎา กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์กำลังจะเข้าสู่ขั้นวิกฤตเพียงใด แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กลับไม่เร่งรีบกับการระบาด หรือมีความเดือดเนื้อร้อนใจแทนประชาชน เรียกประชุม ศบค.ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.65) ทั้งที่การระบาดเกิดขึ้นทุกวินาที พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยเรียนรู้บทเรียนจากสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ทั้งที่เป็น ผอ.ศบค.ต้องประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคได้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือ เร่งจัดหาวัคซีนที่สามารถป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนมาฉีดให้ประชาชนโดยเร็ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้มากที่สุด
“อยากให้รัฐบาลภายใต้การกำกับของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ควรบริหารประเทศด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ประเมินสถานการณ์ด้วยความจริง ไม่ใช่วิ่งไล่ตามปัญหา อยากให้ท่านทบทวนให้ดีและเร่งแก้ไข หากปล่อยภาระค่าใช้จ่ายต้องตกเป็นของประชาชนเต็มพิกัด คนป่วยตายเกลื่อนก่อนหมดวาระรัฐบาลแน่ ไม่ไหวบอกไม่ไหว ไม่ใช่ไม่ไหวบอกไหว เพราะไหวของท่านโดยสภาพคือการเผาประชาชนทั้งประเทศให้ตายทั้งเป็น ซึ่งความเป็นจริงไปหวังพึ่งหนู หนูก็ช่วยไม่ได้ ตัวท่านเองประกาศลาออกหรือยุบสภาเถอะค่ะ ให้คนมีฝีมือเขามาแก้ประเทศรอด ประชาชนรอด ท่านก็รอด ไม่งอมพระรามนะคะ” ตรีชฎา กล่าว