Skip to main content

ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง พรรคภูมิใจไทยยึดหลัก 3 ข้อพิจารณารถไฟฟ้าสายสีเขียว ถูกกฎหมาย - ประโยชน์ของรัฐ - ลดรายจ่ายให้ประชาชน เพื่อชี้แจงกรณีที่รัฐมนตรี 7 คนของพรรคไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากต้องการคัดค้านการแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมลงทุน โดยมีเนื้อหาว่า  พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเป็นผู้บังคับบัญชา การไม่เข้าร่วมประชุม ครม. เป็นไปตามที่ได้เคยแสดงเจตนารมณ์กับนายกรัฐมนตรี ไว้แล้วว่า หากมีการนำวาระนี้ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย จะขอสงวนสิทธิ แสดงความเห็นคัดค้าน 

ในส่วนที่กระทรวงคมนาคม ชี้ประเด็นว่า แนวทางที่กทม. เสนอมา จะส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของรัฐและประชาชน  การไม่เข้าประชุม เป็นแนวทางหนึ่งที่จะรักษาบรรยากาศการประชุมครม.และการทำงานร่วมกันของรัฐบาล  ไม่ให้มีความขัดแย้ง และ ได้แจ้งลาการประชุมคณะรัฐมนตรี ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. ไม่ใช่หลบหน้า หรือ หายตัวไปเฉยๆ  

โฆษก ภท. กล่าวว่า ประเด็นสำคัญของวาระเพื่อพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว คือ การแปลงสัญญาสัมปทาน เป็นสัญญาร่วมทุน ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณา และยังมีมุมมองที่เห็นต่างกันอยู่ ระหว่างกระทรวงคมนาคม กับ กระทรวงมหาดไทย ในฐานะต้นสังกัดของกทม. กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีประเด็นคำถาม ที่ต้องการข้อมูลเอกสารจาก กทม. และยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงแสดงความเห็นคัดค้านการดำเนินการที่ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย และ ระเบียบ อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ส่วนต่อขยาย จาก รฟม. ไปเป็นของกทม. ซึ่งกทม. ยังไม่ได้แจ้งว่าได้ดำเนินการแล้วเสร็จถูกต้องตามมติรม.แล้วหรือไม่  เรื่องค่าโดยสาร เป็นอีกประเด็นสำคัญ ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง ในฐานะที่เป็นผู้กำกับมาตรฐานการเดินรถ การประกอบกิจการของรถไฟฟ้า เห็นว่าสามารถจัดเก็บได้ต่ำกว่าที่กทม. เสนอ และเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน จึงท้วงติงประเด็นนี้ พร้อมทั้งขอข้อมูลประกอการพิจารณาเพิ่มเติมว่าทำไมจึงต้องเป็น 65 บาท ในขณะที่กระทรวงคมนาคม คำนวณได้ต่ำกว่า 65 บาท

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยขอเรียนว่าการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทย ยึดหลักการ 3 ข้อ คือ1.พรรคภูมิใจไทย พิจารณาในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐ และ ประชาชน สูงสุด พร้อมกันนี้ ต้องรักษามารยาทการร่วมรัฐบาล และไม่สร้างความขัดแย้ง ที่จะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล 2.พรรคภูมิใจไทย เสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ คือ กทม. ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กฎหมาย ระเบียบ และ หลักธรรมาภิบาล ซึ่งหากมีการดำเนินการครบถ้วน มีข้อมูล เอกสารใหม่ ที่ครบถ้วน พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะพิจารณาใหม่ และให้ความเห็นชอบ  3.พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎร คุ้มครองประชาชนผู้บริโภค หรือ ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ให้ได้รับความเป็นธรรมจากการกำหนดราคาค่าโดยสาร และได้รับการบริการที่ดี เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบกิจการ  การไม่เข้าร่วมประชุมครม.เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นท่าทีที่ทำให้คณะรัฐมนตรี ต้องพิจารณาโครงการนี้อย่างรอบคอ อีกครั้งหนึ่ง และมอบให้กระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามของกระทรวงคมนาคม ให้ครบถ้วนก่อน แล้วเสนอกลับมาให้ครม.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

“พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีความขัดแย้งกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แต่การทำงานของพรรค มีแนวทางที่ชัดเจน คือ ต้องถูกต้องตามกฎหมาย และ เพื่อประโยชน์ของประชาชน หากเป็นไปตามนี้ เราไม่มีเหตุที่จะคัดค้าน และ จะพร้อมให้การสนับสนุน”โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุ